วัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจของบริษัท และบริษัทย่อย, ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และบริษัท และใช้คืนเงินกู้ของบริษัท และบริษัทย่อย
บมจ.อิงเกรส อินดัสเตรียล (ไทยแลนด์) ลงทุนและถือหุ้นในบริษัทอื่น โดยไม่มีการประกอบธุรกิจหลักเป็นของตนเอง (Holding Company) โดยบริษัทมีการลงทุนในบริษัทย่อยที่ประกอบธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายชิ้นส่วนรถยนต์ (Automotive Components Manufacturing: ACM Business) ในประเทศไทย ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย
ณ วันที่ 31 ต.ค.2558 บริษัทฯมีการลงทุนและถือหุ้นทั้งโดยทางตรง และโดยทางอ้อมในบริษัทย่อยทั้งหมด 7 บริษัท ได้แก่ บริษัทฯย่อยที่บริษัทถือหุ้นโดยตรง ได้แก่ บริษัท อิงเกรส ออโตเวนเจอร์(IAV), บริษัท ไฟน์ คอมโปรแนนท์ (ประเทศไทย)หรือ FCT และบริษัท อิงเกรส อินดัสเตรียล(ประเทศมาเลซีย)เอสดีเอ็น บีเอชดี(IIM) และบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นทางอ้อม ประกอบด้วย บริษัท อิงเกรส เทคโนโลจีส์ เอสดีเอ็น บีเอชดี(ITSB), บริษัท อิงเกรส พรีซิชัน เอสดีเอ็น บีเอชดี (IPSB), บริษัท พี.ที.อิงเกรส เทคโนโลจีส์ อินโดนีเซีย(PT ITI) และบริษัท พี.ที.อิงเกรส มาลินโด เวนเจอร์(IP IMV)
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 ต.ค.2558 มีสินทรัพย์รวม 4,119.60 ล้านบาท หนี้สินรวม 1,803.10 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 2,316.49 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 2,549.50 ล้านบาท กำไรสุทธิ 163.77 ล้านบาท
ณวันที่ 21 ธ.ค.2558 บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1,446,942,690 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 1,185,380,190 บาท หลังเสนอขายหุ้นในครั้งนี้แล้ว บริษัทจะมีทุนชำระแล้วเพิ่มเป็น 1,446,942,690 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 1,446,942,690 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทฯ ณ วันที่ 21 ธ.ค.2558 คือ บริษัท อิงเกรส คอร์ปอเรชั่น เบอร์ฮาด(ICB) ถือหุ้น 1,185,380,170 หุ้น หรือคิดเป็น 100% หลั้งเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แล้วจะลดการถือหุ้นลงเหลือ 868,499,770 หุ้น หรือคิดเป็น 60.02%
บริษัทฯมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 25 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้ของงบการเงินรวม และภายหลังการจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย