(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาขึ้นคล้ายตลาดภูมิภาค หลังแรงขายต่างชาติเริ่มชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 23, 2016 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway up คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างบวกกันเกือบหมด แม้ว่าตลาดหุ้นทั่วโลกขณะนี้มีปัจจัยที่ยังไม่ชัดเจน แต่ตลาดบ้านเราได้ตอบรับการปรับตัวกับนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไปในระดับหนึ่งแล้ว จากที่ได้มีแรงขายในตลาดบอนด์ และตลาดหุ้นออกมาสักพักแล้ว และล่าสุดแรงขายต่างชาติก็ได้ชะลอลง โดยวานนี้ได้ขายสุทธิแค่ 900 กว่าล้านบาท

อย่างไรก็ดี ยังมองว่าเม็ดเงินต่างชาติยังน่าจะไหลออกอยู่ เนื่องจากในกลางเดือนธ.ค.ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งแน่นอนย่อมที่จะทำให้เงินทุนไหลออกกลับไปที่สหรัฐฯ และเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็จะแข็งค่าได้

ส่วนราคาน้ำมันเช้านี้ก็บวกเล็กน้อย และเงินบาทก็นิ่ง ๆ ซึ่งตลาดฯคงจะยังได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯที่ออกมาเมื่อวานนี้ ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว โดยแนะนำ"เก็งกำไร"หุ้นในกลุ่มค้าปลีก, กลุ่มโรงแรม และกลุ่มถ่านหิน พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,495 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (22 พ.ย.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,023.87 จุด เพิ่มขึ้น 67.18 จุด (+0.35%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,386.35 จุด เพิ่มขึ้น 17.49 จุด (+0.33%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,202.94 จุด เพิ่มขึ้น 4.76 จุด (+0.22%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 0.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 24.34 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 13.33 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.17 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 11.91 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 1.98 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณผู้ใช้แรงงาน

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (22 พ.ย.59) 1,485.68 จุด เพิ่มขึ้น 7.38 จุด (+0.50%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 934.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พ.ย.59
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (22 พ.ย.59) ปิดที่ 48.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.4%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (22 พ.ย.59) ที่ 7.62 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 35.48/50 คาดแกว่งในกรอบ 35.40-35.60 จับตาตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯคืนนี้
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา (วีซ่า) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย และปรับลดค่าธรรมเนียมการตรวจลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VOA) เป็นการชั่วคราว
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกสินค้าไทยเดือน ต.ค.59 มีมูลค่า 1.77 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.2% เทียบกับเดือน ต.ค.58 ซึ่งเป็นการกลับมาติดลบอีกครั้งในรอบ 2 เดือน หลังจากที่การส่งออกในเดือน ส.ค. บวก 6.5% และเดือน ก.ย. บวก 3.4%
  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยกลุ่มคนเมืองที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพอิสระให้ใช้ชีวิตอยู่ได้ หลังจากนี้จะมีมาตรการออกมาเพิ่มเติมอีก เช่น การช่วยเหลือผู้สูงอายุ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะไปหามาตรการมาดูแลต่อไป ขณะเดียวกันยังมีแนวทางช่วยเหลือด้านการเดินทาง โดยใช้กลไกของพร้อมเพย์ให้ผู้ที่มีรายได้น้อยใช้บัตรใบเดียวสามารถใช้บริการรถสาธารณะได้ในบางเส้นทาง
  • รฟม.มั่นใจเจรจาเดินรถสายสีน้ำเงินส่วนขยายกับ BEM เชื่อม 1 สถานี 1 เดือน หรือก่อนสิ้นปี 59 ได้ข้อยุติ คมนาคมถกรถไฟไทยจีนก่อนประชุมร่วม 2 ธ.ค. นี้
  • ศูนย์วิจัยฯ ไทยพาณิชย์มองท่องเที่ยวไทยยังโตต่อเนื่อง ปีหน้าลุ้นยอดเพิ่มขึ้น 10% ทั้งจำนวนและรายได้ แนะรัฐหนุนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานรองรับนักเที่ยวสูงอายุ ครม.อนุมัติเว้นค่าวีซ่าดึงนักท่องเที่ยว 19 ประเทศ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ANAN (เออีซี) "ซื้อ"เป้า Consensus 5.43 บาท ปี 59 คาดกำไรโต 112.0%YoY และโตต่อ 33.1% YoYในปี 60 จากมี Backlog 4.1 หมื่น ลบ. ซึ่งรอโอนราว 6.4พัน ลบ.ในช่วง 4Q59ขณะที่ช่วง 4Q59 เปิดตัวโครงการ JV 3 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 1.1 หมื่น ลบ. ซึ่งได้ผลตอบรับดี และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 2.2%
  • STA (เออีซี) "ซื้อ" เป้า Upper Consensus 20 บาท ช่วง 4Q59 คาดพลิกกลับมีกำไร 537 ลบ. จากช่วง 4Q58 ขาดทุน 47 ลบ. หนุนด้วยราคายางทำ New High ในรอบ 1 ปี (TSR20 ตลาด SICOM +51.2%YTD) บวกกับ ปี 59 มีแผนขยายกำลังการผลิตยางธรรมชาติเพิ่มเป็น 1.9 ล้านตัน/ปี จากสิ้นปี 58 ที่ 1.5 ล้านตัน/ปี หนุนให้ช่วง 2 ปีนี้ (ปี 59-60) กำไรโตเฉลี่ยปีละ 13.6% และคาดให้ Div.Yield ปีนี้ 2.4%
  • BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 21.75 บาท มองบวกผลประกอบการ Q4/59 ต่อเนื่องถึงปี 60 เนื่องจากบริษัทกำลังจะตกลงราคาขายถ่านหินในปีหน้าซึ่งราคาปรับตัวขึ้น 40-50% จากปี 59 คาดต้นทุนการผลิตจะปรับตัวขึ้นเพียง 15-20% จากการขุดถ่านหินในพื้นที่ลึกขึ้นทำให้อัตราส่วนดินต่อแร่ พร้อมคาดปี 59 พลิกเป็นกำไร 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากโรงไฟฟ้า BLCP และโรงไฟฟ้าหงสาจะทำการผลิตไฟฟ้าครบทั้ง 3 หน่วย นอกจากนี้ ปรับลดการลงทุนในธุรกิจถ่านหินเพื่อเน้นธุรกิจโรงไฟฟ้าสู่ 2.4 GW ในปี 63 โดยในปัจจุบันมีกำลังการผลิตอยู่ที่ราว 1.63 GW (รวมโรงไฟฟ้าหงสาทั้ง 3 หน่วย)
  • CPALL (กสิกรไทย) เก็บผลประกอบการโดดเด่นในไตรมาส 3/59 จากความสำเร็จในแสตมป์แคมเปญ นอกจากนี้ ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว CPALL ยังได้รับผลประโยชน์จากมาตราการรัฐน้อยที่สุดในกลุ่ม จึงทำให้ฐานของรายได้ในปีที่แล้ว ไม่ถือว่าสูง จึงน่าจะทำให้เห็นการเติบโต YoY ที่สูงเมื่อเทียบกับกลุ่ม
  • BA (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 29 บาท ไตรมาส 3 เป็น high season ของสนามบินสมุย โดยคาดการณ์การเติบโตของจำนวนผู้โดยสารที่ 8.4% ในช่วงปี 2560-62 ทำให้คาดว่ากำไรในช่วงดังกล่าวจะแตะระดับสูงสุด ด้วย CAGR ที่ 8% ขณะเดียวกัน ประเด็นด้านพันธมิตรรหัสเที่ยวบินร่วมกัน (code share) ที่อาจเพิ่มเข้ามาอีก 5 ราย ก็จะสร้าง upside ต่อประมาณการกำไรของเรา

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ