(เพิ่มเติม) PK ตั้งเป้ารายได้ปีนี้พุ่งทำนิวไฮแตะ 5 พันลบ.จากปีก่อน 4.7 พันลบ.หลังตุน backlog แล้ว 2.6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 27, 2018 12:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พัฒน์กล (PK) ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ทำนิวไฮที่ 5 พันล้านบาท เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ราว 4.7 พันล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) แล้วราว 2.6 พันล้านบาทที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ พร้อมทั้งเตรียมรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะประเทศฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และแถบ CLMV รวมไปถึงตลาดสหรัฐ ยุโรป และออสเตรเลีย คาดว่าจะผลักดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศเพิ่มเป็น 25% ในปีนี้ จากเดิมอยู่ที่ระดับ 17-18% ส่วนตลาดในประเทศ บริษัทฯก็จะเดินหน้าในการทำการตลาดพร้อมพิจารณาเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง

นายแสงชัย โชติช่วงชัชวาล ประธานคณะเจ้าหน้ทที่บริหาร PK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 จะจะทำสถิติสูงสุดใหม่ขึ้นไปแตะระดับ 5,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันมี backlog เพิ่มขึ้นเป็น 2,600 ล้านบาท จากช่วงก่อนหน้าที่อยู่ 2,400 ล้านบาท คาดว่าจะรับรู้เป็นรายได้ทั้งหมดภายในปีนี้ นอกจากนี้ บริษัทยังเดินหน้าขยายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่องอีก 2-3 ตัว โดยคาดว่าจะทยอยออกมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/61

ประกอบกับ ในปีนี้บริษัทจะเน้นรุกตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะสหรัฐ ยุโรป และออสเตรเลีย ที่จะเติบโตค่อนข้างมาก ซึ่งเป็นผลจากนโยบายของสหรัฐที่จะเน้นการลงทุนและการบริโภคในประเทศ คาดว่าการเติบโตในกลุ่มประเทศดังกล่าวจะช่วยชดเชยการชะลอตัวของความต้องการในกลุ่มประเทศในกลุ่ม CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียรมา และเวียดนาม ที่เริ่มเห็นสัญญาณจากการชะลอการส่งมอบสินค้าตั้งแต่ไตรมาส 4/60 ที่ผ่านมา จากผลกระทบมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐ ทำให้โรงงานบางแห่งตัดสินใจชะลอการลงทุน

รวมถึงสถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยนที่ค่าเงินหลายสกุลอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้กลุ่มประเทศดังกล่าวจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นในการซื้อสินค้า

ทั้งนี้ จากการเดินหน้าขยายตลาดในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นนั้น จะทำให้สัดส่วนรายได้ในต่างประเทศปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 25% จากปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 17-18% ขณะที่ตลาดในประเทศยังคงเดินหน้าออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง

นายแสงชัย กล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนขยายโรงงานในอินโดนีเซีย บริษัทได้ตั้งงบลงทุน 200-300 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างได้ในปีหน้าและแล้วเสร็จในปี 63 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนประมาณ 1 ปี เนื่องจากบริษัทได้ปรับแผนงานมาลงทุนในโรงงานที่ จ.ฉะเชิงเทราก่อน เพื่อขยายกำลังการผลิต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ