TKN พุ่ง 5.16% เล็งกำไรฟื้นตัวตั้งแต่ Q2/61 หลังผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จากต้นทุนลดลง-ขณะที่ยอดขายโตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 10, 2018 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น TKN ราคาวิ่งขึ้น 5.16% มาอยู่ที่ 16.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 48.62 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.08 น. โดยเปิดตลาดที่ 16.30 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.70 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16.30 บาท

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) กำไรไตรมาส 1/61 ลดลง 11% จากงวดปีก่อนตามคาด ซึ่งเชื่อว่ากำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วโดยจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากต้นทุนการผลิตลดลงจากราคาสาหร่ายล็อตใหม่ที่ลดลง อีกทั้งต้นทุนต่อหน่วยลดลงจากอัตราการใช้กำลังการผลิตโรงงานใหม่เพิ่มขึ้น ขณะที่ยอดขายทั้งในประเทศและส่งออกยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง แม้ปรับลดประมาณการแต่คาดกำไรปีนี้จะเติบโต 17% จากปีที่แล้ว โดยประเมินราคาเป้าหมายใหม่ (DCF) ที่ 21.20 บาท

กำไรสุทธิในไตรมาส 1/61 เท่ากับ 152 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากไตรมาสก่อน แต่ลดลง 11% จากงวดปีก่อน หากไม่รวมขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน กำไรปกติเท่ากับ 160 ล้านบาท ลดลง 3% จากไตรมาสก่อน และ 11% จากงวดปีก่อน เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นอย่างมีนัยยะเหลือ 28.2% จาก 34.9% ในไตรมาส 1/60 จากต้นทุนราคาสาหร่ายเพิ่มสูงขึ้นและต้นทุนของโรงงานใหม่ที่โรจนะ อย่างไรก็ดี ยอดขายยังเติบโตได้ดี 19% เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน ทั้งการเพิ่มขึ้นของทั้งยอดขายในประเทศ 14% จากงวดปีก่อน และการส่งออกเติบโต 22% จากงวดปีก่อน โดยการส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้น 25% จากงวดปีก่อน นอกจากนั้น ภาษีจ่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากได้สิทธิประโยชน์ของบีโอไอของโรงงานโรจนะ

พร้อมปรับประมาณการปี 2561-2562 ลง 9% และ 14% ตามลำดับ สะท้อนอัตรากำไรที่ต่ำในไตรมาส 1/61 อย่างไรก็ดี คาดกำไรปกติปีนี้ฟื้นตัว 17% เป็น 787 ล้านบาท โดยกำไรจะเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 2/61 เป็นต้นไป เนื่องจากราคาสาหร่ายล็อตใหม่ที่บริษัทนำเข้าสำหรับใช้ในช่วงไตรมาส 2/61 ถึงไตรมาส 1/62 ปรับตัวลดลงประมาณ 10% ตามราคาสาหร่ายที่ลดลงและเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาที่ 31 บาท/ดอลลาร์ (ซื้อสาหร่ายเป็นดอลลาร์) ทำให้ต้นทุนลดลงเมื่อเทียบกับต้นทุนในช่วงไตรมาส 2/60 ถึงไตรมาส 1/61 ซึ่งราคาสาหร่ายเพิ่มขึ้นอีกทั้งเงินบาทอ่อนค่าในระดับ 34-35 บาท/ดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังได้ประโยชน์จากอัตราภาษีลดลง

ส่วนแบ่งตลาดของเถ้าแก่น้อยเพิ่มจาก 66.2% ในปี 2559 เป็นมากกว่า 70% คาดยอดขายในประเทศยังเติบโตดีจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีน เปิดสาขาเถ้าแก่น้อยแลนด์ 7-8 สาขาเป็น 20 สาขา และการออกสินค้าใหม่ การส่งออกขยายตัวต่อเนื่องโดยการส่งออกไปจีนฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 3/60 หลังจากการขยายกำลังการผลิตที่โรงงานโรจนะ ซึ่งทำให้กำลังการผลิตรวมสูงสุดเพิ่มขึ้นเท่าตัวเป็น 12,000 ตัน/ปี อีกทั้งปีนี้จะจัดตั้งทีมงานเข้าไปดูแลการตลาดในจีน และหาผู้จัดจำหน่ายเพิ่มเติมด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ