PACE ลบ 2.27% หลัง Q1/61 ขาดทุนเพิ่มเป็น 4.09 พันลบ.เหตุตั้งด้อยค่าเงินลงทุนกิจการร่วมค้า 3.4 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 16, 2018 10:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น PACE ลบ 2.27% มาที่ 0.43 บาท หรือลดลง 0.01 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 1.54 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.04 น. โดยราคาหุ้นเปิดตลาดที่ 0.44 บาท ราคาทำระดับสูงสุดที่ 0.44 บาท และทำระดับต่ำสุดที่ 0.43 บาท

บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น (PACE) เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/61 มีผลขาดทุนสุทธิ 4,086 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 575.64 ล้านบาทในไตรมาส 1/60 เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการขายและการบริหารและขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์จำนวน 4,325 ล้านบาท คิดเป็น 350% ของรายได้รวม โดยเพิ่มขึ้น 235% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน จำนวน 1,291 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายดังกล่าว แบ่งเป็นค่าใช้จ่ายในการขาย จำนวน 454 ล้านบาท ลดลง 28% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน จำนวน 634 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการบริหาร จำนวน 471 ล้านบาท ลดลง 28% จากปีก่อน จำนวน 657 ล้านบาท และขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์ จำนวน 3,400 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 1/61 บริษัทมีรายได้รวม จำนวน 1,235 ล้านบาท ลดลง 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จำนวน 2,496 ล้านบาท

ทั้งนี้ การบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ดังกล่าวสืบเนื่องจากในไตรมาสที่ 1/60 บริษัทได้มีผู้ร่วมทุนรายใหม่ 2 ราย ได้แก่ อพอลโล เอเชีย สปรินท์ โฮลดิ้ง คอมปานี ลิมิเต็ด และโกลด์แมน แซคส์ อินเวสท์เม้นท์ส โฮลดิ้งส์ (เอเชีย) ลิมิเต็ด ในสัดส่วนการถือครองสิทธิ์ 49% ในโรงแรมบางกอก เอดิชั่น (บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด) รูฟท็อปบาร์ จุดชมวิว ออบเซอร์เวชั่นเด็ค และมหานคร คิวบ์ (บริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด) เป็นผลให้บริษัทสูญเสียอำนาจควบคุมในบริษัทย่อยจากการร่วมทุนดังกล่าว บริษัทแต่งตั้งที่ปรึกษาการเงินอิสระเพื่อประเมินมูลค่าเงินลงทุนด้วยจำนวน 6,487 ล้านบาทและบันทึกในงบดุลสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 และบันทึกผลกระทบจากการสูญเสียอำนาจควบคุมจำนวน 7,113 ล้านบาท ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 ตามลำดับ

ต่อมาในเดือน เม.ย.61 บริษัทเข้าทำสัญญาซื้อขายสินทรัพย์ทั้งหมดในบริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด แก่บริษัท คิง พาวเวอร์ มหานคร จำกัด ด้วยจำนวนมูลค่าไม่เกิน 14,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทเข้าทำสัญญาซื้อหุ้นกับ อพอลโล เอเชีย สปรินท์ โฮลดิ้ง คอมปานี ลิมิเต็ด และ โกลด์แมน แซคส์ อินเวสท์เม้นท์ส โฮลดิ้งส์ (เอเชีย) ลิมิเต็ด จำนวนเงินไม่เกิน 320 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือไม่เกิน 10,000 ล้านบาท จากการเข้าทำรายการตามที่กล่าวข้างต้น ส่งผลให้บริษัทรับรู้ผลกระทบส่วนต่างเงินลงทุนระหว่างราคามูลค่ายุติธรรมจากที่ปรึกษาการเงินอิสระและรายการที่เกิดขึ้นจริง โดยบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนในบริษัทย่อยจำนวน 3,400 ล้านบาท

ขณะที่งบการเงินรวมระหว่างกาลสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.61 ผู้สอบบัญชี บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด ได้แสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไขต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม สำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.61 เนื่องมาจากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ในการพิจารณาผลขาดทุนจากการด้อยค่าเงินลงทุน และจากการเข้าทำรายการขายสินทรัพย์ของบริษัททั้งสองแห่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ