ตลาด mai รับหุ้น KWM เริ่มซื้อขาย 1 ต.ค. นี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 28, 2018 16:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เค. ดับบลิว. เม็ททัล เวิร์ค (KWM) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า "KWM" ในวันที่ 1 ตุลาคม 2561

KWM และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับใช้ในการเกษตร มีผลิตภัณฑ์หลักคือ ใบผาล ใบจักร ใบคัดท้าย โครงผาล ใบดันดิน ใบเกลียวลำเลียง โดยผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะถูกนำไปต่อพ่วงกับรถแทรกเตอร์ หรือเครื่องจักรกลทางการเกษตรอื่นๆ เพื่อช่วยทุ่นแรงในกิจกรรมทางการเกษตรและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน บริษัทจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้า "Pegasus" ซึ่งเป็นตราสินค้าของบริษัทเอง และรับจ้างผลิตผลิตภัณฑ์ตามแบบที่ลูกค้ากำหนด ภายใต้ตราสินค้าของลูกค้า อาทิ "ตราช้าง" ของบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด เป็นต้น

KWM มีทุนชำระแล้ว 210 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 300 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 120 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) โดยแบ่งเป็นการจัดสรรให้กับกลุ่มกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานบริษัทจำนวน 4.50 ล้านหุ้น และประชาชนทั่วไปจำนวน 115.50 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 19-21 กันยายน 2561 ในราคาหุ้นละ 1.30 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 156 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 546 ล้านบาท มี บมจ. หลักทรัพย์ เออีซี เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายเอกพันธ์ วนโกสุม ประธานกรรมการบริหาร KWM เปิดเผยว่าบริษัทมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากบริษัทมีคุณภาพสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน บริษัทมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลายทั้งการขายตรงให้กับผู้ผลิต คือบริษัท สยามคูโบต้า คอร์ปอเรชั่น จำกัด และกลุ่มผู้ผลิตสินค้าโดยตรง (First tier Supplier) ของผู้ผลิต รวมทั้งขายผ่านร้านค้าปลีกและร้านค้าส่ง บริษัทจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ชำระหนี้แก่เจ้าหนี้สถาบันการเงิน รวมถึงเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ

KWM มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มวนโกสุม ถือหุ้น 71.79% กลุ่มจีระพรประภา ถือหุ้น 1.67% และนางสาวพรทิพย์ ปั้นบำรุงสุข ถือหุ้น 0.95% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ที่ 1.30 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) ที่ 22.95 เท่า โดยคำนวณจากผลประกอบการของบริษัทในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา (1 กรกฎาคม 2560-30 มิถุนายน 2561) ซึ่งเท่ากับ 23.79 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.06 บาท ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 45% ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษี และทุนสำรองตามกฎหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ