โบรกฯเชียร์"ซื้อ"AMATA มองผลงานปี 62 มีสัญญาณฟื้นตัวรับผลบวก EEC-สงครามการค้าผลักดันลงทุนเพิ่ม,ธุรกิจไฟฟ้าหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 16, 2019 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้นบมจ.อมตะ คอร์ปอเรชั่น (AMATA) หลังแนวโน้มผลประกอบการปี 62 มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดี เนื่องจากได้รับประโยชน์จากนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้ยอดขายมีโอกาสปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทำให้มีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิตมาไทยมากขึ้น

อีกทั้งยังจะรับรู้ผลการดำเนินงานเต็มปีของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม.เฟส 3,4 และ 5 ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง หลังจากเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึง AMATA ยังจะเติบโตจากการขยายธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV นอกเหนือจากปัจจุบันที่มีนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนาม ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตดีในอนาคต

หุ้น AMATA ปิดภาคเช้าอยู่ที่ 20.60 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือ 2.37% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ลดลง 0.49%

          โบรกเกอร์                         คำแนะนำ                 ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น)
          หยวนต้า (ประเทศไทย)                 ซื้อ                        25.00
          ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ                     ซื้อ                        26.00
          กสิกรไทย                            ซื้อ                        24.50
          เอเชีย เวลท์                         ซื้อ                        26.00
          เคที ซีมิโก้                           ซื้อ                        27.70

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มของผลประกอบการของ AMATA มีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีในช่วงครึ่งหลังของปี 62 จากการประกาศบังคับใช้กฎหมายลูกว่าด้วยเรื่องผังเมืองในส่วนที่ใช้บังคับใช้ใน พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ซึ่งจะส่งผลทำให้ยอดขายที่ดินปรับตัวดีขึ้น ประกอบกับ เม็ดเงินลงทุนโดยตรงจากนักลงทุนต่างชาติมีทิศทางดีขึ้นมาตั้งแต่ช่วงปี 61 คาดว่าจะทำให้มีโมเมนตัมที่ดี และส่งผลต่อเนื่องมายังปี 62 ด้วย ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานนิคมอุตสาหกรรมในเวียดนามยังเห็นการเติบโตที่ดีเช่นกัน

ส่วนผลประกอบการในไตรมาส 4/61 คาดว่าจะยังออกมาไม่ดีนัก และอาจจะส่งผลต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 1/62 จากปัจจุบันนักลงทุนต่างรอดูความชัดเจนของการเลือกตั้งของไทย และข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร ทำให้การลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) เพื่อเป็นศูนย์การกระจายสินค้าลำบากมากขึ้น จากปัจจัยการค้าโลกชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี ยังมองว่ากรณีดังกล่าวก็มีโอกาสที่ผู้ประกอบการจะย้ายฐานการผลิตมาที่ประเทศไทยมากขึ้น

ด้านบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ประมาณกำไรของ AMATA ในปี 62 ที่ 1.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปีที่แล้ว บนสมมติฐานยอดขายรอโอน (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 3/61 ที่ 1.9 พันล้านบาท โดยคาดรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/61 ราว 500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดรับรู้รายได้ในปี 62 อย่างน้อย 800 ล้านบาท หรือ 35% ของประมาณการรายได้ธุรกิจขายที่ดินในปี 62

ทั้งนี้ AMATA คงเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งปี 61 ที่ 925 ไร่ เทียบกับ 9 เดือนแรกของปี 61 ที่ทำได้เพียง 222 ไร่ สะท้อนความเชื่อมั่นต่อการปิดลูกค้ารายใหญ่ได้ภายในปลายปี 61 โดยปกติยอดขายของ AMATA จะถูกรับรู้ภายในช่วง 6-12 เดือน ดังนั้น หากยอดขายในไตรมาส 4/61-1/62 ทำได้อย่างน้อย 500 ไร่ จะทำให้ยอดโอนที่ดินในปี 62 มีโอกาสสูงกว่าสมมติฐานหลักที่ 500 ไร่ไม่ยาก

นอกจากนี้ในปี 62 AMATA จะรับรู้การ COD โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม. ระยอง 3 ระยอง 4 และระยอง 5 เต็มปี ซึ่งจะช่วยหนุนส่วนแบ่งกำไรเติบโต 16% ทั้งนี้ กรณีเลวร้ายหากการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไป การประมูลโครงสร้างพื้นฐาน EEC มองว่าจะยังเดินหน้าตามแผน อีกทั้งเชื่อว่ารัฐบาลใหม่จะยังให้ความสำคัญกับโครงการ EEC ต่อเนื่อง หรือหากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของ EEC เกิดความล่าช้าในปี 62 ผู้เล่นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมยังโดดเด่นเมื่อเทียบกับปี 61 จากการรับรู้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและกฏหมายจากพ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เต็มปีเทียบกับปี 61 ที่ได้ประโยชน์ในครึ่งหลังปี 61

ด้านบทวิเคราะห์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มธุรกิจปี 62 ของ AMATA มีความสดใส เนื่องจากมีลูกค้าที่มีศักยภาพที่จะซื้อนิคมอุตสาหกรรมอยู่ใน Pipeline ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน รวมทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ อย่างไรก็ดี การเลือกตั้งไทยคาดว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ และความคืบหน้าของนโยบายระเบียงเศรษฐกิจต่าง ๆ คาดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยอดขายนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย

พร้อมกันนี้ AMATA ยังมีกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ด้วยการรุกธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไปยังเพื่อนบ้าน CLMV ที่มีการเติบโตสูงโดดเด่น นอกเหนือจากในเวียดนามที่ปัจจุบันมีการดำเนินการอยู่ใน 2 พื้นที่ ส่วนพื้นที่ที่ 3 "อมตะ ซิตี้ ฮาลอง" ก็ได้เริ่มทำการก่อสร้างแล้ว และจะเริ่มขายได้ในปี 63 โดยเฟสแรกจะเปิดขายที่ 770 ไร่ ซึ่ง AMATA เห็นว่าจะมีศักยภาพทางธุรกิจในอนาคต รวมทั้งยังมีแผนขยายธุรกิจไปประเทศเมียนมา และลาวด้วย ซึ่งจะผลักดันการเติบโตของ AMATA ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ