GBX ยืนหยัดเข้าปีที่ 16 เชื่อมั่นแข็งแกร่งไม่หวั่นข่าวสั่นคลอน พร้อมเปิดทางพันธมิตรต่างชาติร่วมทุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday February 25, 2019 16:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก (GBS) ในกลุ่ม บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ (GBX) โต้กระแสข่าวลือธุรกิจมีปัญหาจนต้องขายกิจการหลักทรัพย์ให้โบรกฯ อื่น โดยให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์"ว่า ธุรกิจหลักทรัพย์ในปัจจุบันมีการแข่งขันที่สูง ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการแข่งขันในเรื่องค่าคอมมิชชั่นที่หลายโบรกเกอร์มีการลดค่าคอมมิชชั่นเพื่อดึงลูกค้าไว้ เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด (มาร์เก็ตแชร์)

แต่ก็มีบางโบรกเกอร์ที่ปรับตัวได้ทันก็หันไปหารายได้จากการทำธุรกิจอื่น ๆ เข้ามาเสริม ก็จะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากการแข่งขันเท่าใดนัก เช่นเดียวกับ บล.โกลเบล็ก ที่มีการหารายได้จากส่วนอื่นมาเสริม อย่างเช่น Prop trade การปล่อยมาร์จิ้นโลน แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพอร์ตใหญ่มากนัก เพราะไม่มีธนาคารเป็นแบ็คอัพด้านเงินทุน รวมไปถึงการมีธุรกิจการเทรดดิ้งตราสารหนี้ที่เข้มแข็งด้วย

นายธนพิศาล กล่าวว่า หลายคนมองว่าบริษัทมีการบริหารงานในแบบครอบครัวนั้น ที่จริงแล้วก็มีทั้งจุดดีและจุดด้อย เพราะการบริหารแบบครอบครัวทำให้เราสามารถปรับตัวได้ทันและรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น แต่หากต้องการจะเติบโตเป็นกิจการขนาดใหญ่ก็คงต้องหาพันธมิตรเข้ามาร่วม ซึ่งจะต้องเข้ามาช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับบริษัทด้วย

*ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเข้าปีที่ 16 เชื่อมั่นแข็งแกร่ง

"จริง ๆ อยู่ที่ฐานลูกค้า อยู่ที่ความน่าเชื่อถือของโบรกเกอร์ด้วย เราเปิดมาปีที่ 16 แล้ว เราต้องบอกว่าเราแข็ง เรามีประสบการณ์ค้าทองคำ เราพยายามสร้าง Service บริการที่ดีให้กับลูกค้า พยายามทำให้เขารู้สึกประทับใจในเรื่องบริการ..เรื่อง Product ถามว่าทำไมเขาเลือกเรา 1.อยู่ที่รู้จักกัน 2.เชื่อถือ เพราะบริษัทอยู่มานานแล้ว...

ผมก็เคยเจอถามว่าบริษัทฯจะเป็นอะไรหรือเปล่า เราก็ผ่านบทเรียนตรงนั้นมาแล้ว เราก็ยืนหยัดอยู่ได้ การที่เรามีผลประกอบการที่ออกมาดีต่อเนื่อง 15 ปี ก็ทำให้คนเชื่อมั่นได้ ไม่ใช่ว่าวันหนึ่งจะไปหรือเปล่า จะเป็นอะไรหรือเปล่า อันนี้ก็เป็นจุดหนึ่งที่ลูกค้า ทีมงานที่อยากมาร่วมกับเราก็ถามมาอยู่เหมือนกัน

แต่เราผ่านร้อนผ่านหนาวมา เราเชื่อว่าเราแข็งแกร่ง ไม่ได้กลัวว่าลูกค้าไม่เชื่อเรา แต่เราเชื่อว่าลูกค้าเชื่อเรา อย่าง Research เราก็ปรับ Full ไปที่ตลาด mai เราทำวิจัยหุ้นในตลาด mai มากขึ้น เราก็เป็น Raise Fund ในออกหุ้นกู้ เราก็เป็นอันดับ 3 อีกสองอันดับก็เป็นบริษัทที่ใหญ่ในตลาดฯ ตอนนี้ถ้าใครจะออกหุ้นกู้ก็คิดถึงเรา"นายธนพิศาล กล่าว

*เปิดทางพันธมิตรใหม่เข้าร่วมทุน โดยเฉพาะต่างชาติ

นายธนพิศาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาก็มีผู้ที่สนใจจะเป็นพันธมิตรเข้ามาเจรจากับบริษัทบ้าง แต่ยังไม่ใช่การเจรจาอยางจริงจังนัก ซึ่งบริษัทฯก็ยังคงเปิดโอกาสในการหาพันธมิตรเพื่อมาร่วมกันทำธุรกิจหลักทรัพย์ให้เติบโตก้าวไปข้างหน้าได้ ในลักษณะการเข้ามาร่วมทุนกัน แต่ขณะนี้ยังไม่ได้เปิดเจรจากับรายใดเป็นพิเศษ

"เราก็อยากได้พาร์ทเนอร์ที่เป็นต่างชาตินะ เพราะอยากได้ในส่วนของ Know how, Product ที่สามารถทำให้เราขยายตลาดฯไปได้มากขึ้น และเราก็อยากได้วอลุ่มที่มากขึ้นด้วย แต่ตอนนี้ก็ยังไม่มีใครเข้ามาหารือ-พูดคุยกันจริงจัง"นายธนพิศาล กล่าว

สำหรับกระแสข่าวที่ระบุว่า บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) สนใจจะมาเทคโอเวอร์บริษัทนั้น นายธนพิศาล กล่าวว่า คงจะเป็นการสร้างข่าวเพื่อหวังเก็งกำไรหุ้น GBX เพราะปัจจุบันราคาหุ้นถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชี (Book Value) ที่อยู่ในระดับมากกว่า 1 บาท อีกทั้งก่อนหน้านี้สภาพคล่องก็ไม่ค่อยมี เมื่อมีข่าวเกิดขึ้นก็ทำให้มีสภาพคล่องมากขึ้น ราคาก็ขยับขึ้น มองเป็นการสร้างข่าวเพื่อหวังเก็งกำไรหุ้นมากกว่า

ราคาหุ้น GBX ปิดเที่ยงวันนี้อยู่ที่ 0.67 บาท จากราคาปิด ณ สิ้นปี 61 อยู่ที่ 0.53 บาท

*เล็งนำทองคำมาเป็นตัวอ้างอิงใน"หุ้นกู้อนุพันธ์แฝง"

นายธนพิศาล กล่าวว่า ปีนี้ (2562) บริษัทวางกลยุทธออกผลิตภัณฑ์ (Product) ให้มีความหลากหลายมากขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า High Net Worth ซึ่งล่าสุดจะมีการออกสินค้าใหม่ คือ หุ้นกู้ที่มีอนุพันธ์แฝง โดยได้ขออนุมัติวงเงินไว้ราว 1,000 ล้านบาท โดยหุ้นกู้ประเภทนี้จะเน้นลงทุนในหุ้นที่อยู่ในดัชนี SET50 เนื่องจากเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานดี ให้ผลตอบแทนสูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงด้วยเช่นกันในลักษณะ High risk high return นอกจากนี้ ยังมีแผนจะออกหุ้นกู้อ้างอิงทองคำด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษา เนื่องจากบริษัทก็มีความเชี่ยวชาญในการทำธุรกิจเทรดทองคำอยู่แล้ว

นอกจากนี้ บริษัทฯยังจะทำ Selling Agent เป็นตัวแทนขายกองทุนด้วยในปีนี้ ซึ่งก็จะทำให้ปีนี้อาจต้องเพิ่มพนักงานอีก 10 คน จากปัจจุบันที่มีพนักงานอยู่ 300 คน

*ร่วมลงทุนใน"แคปปิตอล วันฯ"สร้างรายได้เพิ่ม-ตั้งเป้า IPO ขั้นต่ำปีละ 2 บริษัทฯ

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า แม้ว่าปัจจุบัน GBX ยังคงพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์เป็นหลักถึง 80% แต่ขณะนี้ก็ได้เข้าไปลงทุนในบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในสัดส่วน 51% โดยร่วมทุนกับทีมผู้บริหารที่ถือหุ้นในสัดส่วน 49% โดยบริษัทดังกล่าวมุ่งเน้นทำธุรกิจด้านวาณิชธนกิจ (IB) เป็นหลัก โดยเฉพาะการเป็นที่ปรึกษางการเงิน (FA)

ในปีนี้ แคปปิตอล วันฯ เตรียมจะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 4 บริษัท ประกอบด้วย บมจ.วีแอล เอ็นเตอร์ไพรส์ ดำเนินธุรกิจขนส่งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทางเรือ คาดว่าจะเป็นบริษัทแรกที่จะนำเข้าตลาด mai ถัดไปก็เป็น บมจ.โรงพยาบาล อินเตอร์เมด ดำเนินธุรกิจตรวจสุขภาพเคลื่อนที่และตรวจสิ่งแวดล้อม 3. บริษัทที่ทำธุรกิจวัสดุก่อสร้าง และ 4. บริษัทที่ทำธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ

ทั้งนี้ เป้าหมายของ"แคปปิตอล วันฯ"ต้องการที่จะนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ขั้นต่ำปีละ 2 บริษัท

*รับงบฯ GBX ปี 61 ย่อลงตามภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ คาดประกาศ 26 ก.พ.

นายธนพิศาล กล่าวว่า GBX จะประกาศผลการดำเนินงานปี 61 ในวันที่ 26 ก.พ.ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมธุรกิจหลักทรัพย์ที่ย่อตัวลงจากปี 60 ซึ่ง GBX พึ่งพิงรายได้หลักจากธุรกิจหลักทรัพย์ถึง 80% ที่เหลืออีก 20% มาจากธุรกิจค้าทองคำ และงานวาณิชธนกิจ (IB) โดยปัจจุบันธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทฯมีมาร์เก็ตแชร์อยู่ 1% กว่าๆ จัดอยู่ในอันดับประมาณ 25 ยังลูกค้าส่วนใหญ่เป็นรายย่อย ซึ่งปัจจุบันมีราว 20,000 บัญชี

สำหรับใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ลูกค้าของบริษัทต้องไปเทรดกับโบรกฯอื่น เนื่องจากบริษัทยังไม่มีแผนที่จะออก DW เพราะมีคนทำมากแล้วในตลาด

"เราไปทำตลาดคงลำบาก และมองในเรื่องเงินทุนด้วย ต้องมีเรื่องของทุนจดทะเบียน และต้องทำเรทติ้ง ตรงนี้อาจไม่เหมาะกับเราที่จะทำตรงนี้ เราเลยหันไปหา Product อื่นๆ แทน หรือ business อื่นแทน"นายธนพิศาล กล่าว

ด้านธุรกิจค้าทองคำที่เป็นจุดแข็งของบริษัท ด้วยความที่เป็นสินค้าที่เกี่ยวข้องกับ Commodity จึงเป็นไปตาม Cycle โดยเมื่อปีที่แล้วทองคำเป็นขาลง ทำให้การเทรดทองคำไม่ค่อยคึกคักนัก แต่โดยปกติเมื่อใดที่ทองคำเป็นขาขึ้นลูกค้าจะหันมาเทรดทองคำมากกว่า ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาเทรดทองคำบ้างแล้วหลังจากราคาทองคำขยับขึ้นมา แต่การที่เงินบาทแข็งค่าก็ถ่วงอยู่ ทำให้ลูกค้าบางส่วนยังลังเลและชะลอไว้ก่อน

"ราคาทองมีโอกาสที่จะปรับขึ้นจากเศรษฐกิจโลก แต่การเทรดทองก็เป็นแค่เฮจจิ้ง ซึ่งตอนนี้การเทรดทองคำของบริษัทฯก็ยังเป็นปกติ มาร์จิ้นที่ได้รับจากการเทรดดิ้งทองคำยังต่ำ"นายธนพิศาล กล่าวในช่วงท้าย

https://youtu.be/B5uYIew2TIw


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ