WHAUP เปิดแผนปี 62 เดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการน้ำ-ไฟฟ้า-Solar Roof–ธุรกิจค้าปลีกก๊าซฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday March 1, 2019 15:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2562 มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจสาธารณูปโภค ที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้น โดยตั้งเป้าปริมาณการขายน้ำที่ระดับ 120 ล้านลูกบาศเมตร

ส่วนการลงทุนโครงการ Solar Rooftop กับลูกค้า ภายในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ ยังคงมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากลูกค้าเริ่มให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานได้อย่างมาก ณ สิ้นปี 2561 บริษัทฯ มีกำลังการผลิตที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโครงการไฟฟ้าทั้งหมดแล้วจำนวน 521 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกจำนวน 43 เมกกะวัตต์ ซึ่งจะเปิดดำเนินการจ่ายไฟฟ้าแบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในปีนี้ และมีโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่มีการเซ็นสัญญากับลูกค้าแล้วรวม 11.2 เมกกะวัตต์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโดยมีกำหนดเปิดดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/61 ถึงไตรมาส 3/62

นอกจากนั้น ในช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติโครงการ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 2 ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในปีนี้จะรับรู้รายได้จากการให้บริการเต็มปี รวมถึงโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 4 คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/62 นี้

ส่วนการลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะโครงการสาธารณูปโภค ในประเทศเวียดนามนั้น ลาสุดบริษัทฯได้สิทธิในการดำเนินธุรกิจสาธารณูปโภคด้านน้ำ ในเขตอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ-1 เหงะอาน ที่ประเทศเวียดนาม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการ และคาดว่าจะดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 3/62 เช่นกัน

สำหรับผลการดำเนินงานงวดปี 2561 ที่ผ่านมา นายวิเศษ กล่าวว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการ จำนวน 1,708.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.6 % เมื่อเทียบจากปีก่อน และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนจำนวน 2,047.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.7 % โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจำนวน 55.3 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 2,251.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.7 % เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติ (Normalized Net Profit) จำนวน 2,267.8 ล้านบาท มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 61.2% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน

ทั้งนี้การเติบโตเพิ่มขึ้นของผลการดำเนินงานในปี 2561 นั้น เนื่องจากปริมาณการใช้น้ำของลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรม และจากการขยายตัวของลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอทั้งรายเดิมและรายใหม่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้งปีมีปริมาณการขายน้ำอยู่ที่ระดับ 105 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจาก 100 ล้านลูกบาศก์เมตรในปี 2560 รวมทั้งธุรกิจโรงไฟฟ้าที่มีเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์เพิ่มขึ้นจำนวน 35 เมกะวัตต์ ส่งผลให้มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ ในปี 2561 อยู่ที่ 521 เมกะวัตต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ