บล.กสิกรไทย มั่นใจเศรษฐกิจโลกยังไม่ถดถอย-ศก.ไทยยังไปต่อ พร้อมชูเป้า SET ปีนี้ 1,750 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 9, 2019 12:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.กสิกรไทย จัดงานสัมมนาใหญ่ประจำปี "KS Investment Outlook - Thailand’s Disinflationary Boom Still Playing Out" เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจไทยและแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ มั่นใจสภาวะเศรษฐกิจโลกยังไม่ถดถอย และเศรษฐกิจไทยยังไปต่อจากตัวเลขการบริโภคที่ดีขึ้น พร้อมมองเป้าหมายดัชนี SET Index ในปีนี้ยังอยู่ที่ 1,750 จุด จากคาดการณ์กำไรของตลาดหุ้น (Market EPS) อยู่ที่ 12.8%

นาย Sean Darby - Global Head of Equity Strategy จาก Jefferies & Co Inc. กล่าวในงานสัมมนาดังกล่าวว่า กรณีข้อพิพาททางการค้าคาดว่าสหรัฐฯและจีนน่าจะบรรลุข้อตกลงได้เพื่อลดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจสหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอย และการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ทั้งสองประเทศจะยังคงอยู่ในระดับที่เหมาะสม ได้แก่ 6-6.5% สำหรับประเทศจีน และ 2.0-2.5% สำหรับสหรัฐฯ อีกทั้งการเติบโตค่าแรงในสหรัฐฯยังอยู่ในระดับสูงที่ 3.4% เทียบค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 3% ซึ่งถือว่าการเติบโตค่าแรงในระดับนี้ยังไม่มีผลที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแต่อย่างใด

ทั้งนี้ บล.กสิกรไทย และJefferies มองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวแต่ความน่าจะเป็นที่เศรษฐกิจจะถดถอยในช่วง 12 เดือนข้างหน้ายังไม่สูงมาก โดยเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.5% และจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงหากเศรษฐกิจสหรัฐฯเข้าสู่ภาวะถดถอยจริง

นาย Sean Darby กล่าวอีกว่า พฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทน (Search for yield) ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันการลงทุนในตราสารทุนทั่วโลก โดยมองว่าหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible bond) จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะให้ผลตอบแทนที่ดีในปี 62 เนื่องจากมีความเสี่ยงด้านราคาต่ำกว่าหุ้นทุน และสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีหากตลาดทุนมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากหุ้นกู้แปลงสภาพในประเทศไทยไม่เป็นที่แพร่หลายนัก มองว่ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในสินทรัพย์ (REIT) มีลักษณะคล้ายกับหุ้นกู้แปลงสภาพ โดยมีความเสี่ยงต่ำ มีความแน่นอนสูงในกระแสเงินสด รวมทั้งยังมีผลตอบแทนแบบหุ้นทุนอีกด้วย

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มองประเทศอินโดนีเซียมีศักยภาพสูงสุด รองลงมาคือประเทศไทย ส่วนฟิลิปปินส์มีศักยภาพต่ำสุด โดยมองว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องของอินโดนีเซียในปีที่แล้ว ได้ช่วยลดความเสี่ยงเชิงระบบลงอย่างมากและอาจจะมีโอกาสที่จะปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกกับตลาดอินโดนีเซีย

สำหรับตลาดหลักทรัพย์ไทย จุดเด่นคือความแข็งแกร่งงบการเงินโดยประมาณ 35% ของบริษัทจดทะเบียนที่ไม่มีการกู้ยืมและครึ่งหนึ่งของบริษัทจดทะเบียนมีค่าความแข็งแกร่งในเชิงเครดิต (Altman Z-score) ที่ดีมาก สำหรับฟิลิปปินส์นั้น มองว่าการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและการให้สินเชื่อที่ผ่านมามีความร้อนแรงเกินไป ทำให้ประเทศฟิลิปปินส์ในปัจจุบันมีการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

ด้านกำพล อดิเรกสมบัติ ผู้อำนวยการอาวุโส บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ยังคงมุมมองเศรษฐกิจไทยมีการเติบโตในระดับปานกลางที่ 3.8% และ 4.0% ในปี 62-63 แม้ว่าได้ปรับลดประมาณการการส่งออกและการใช้จ่ายของภาครัฐ แต่จะได้รับการชดเชยจากการบริโภคที่ปรับดีขึ้น ตามทิศทางของรายได้เกษตรกรที่น่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว

ในส่วนทิศทางนโยบายการเงินของไทย เชื่อว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) กำลังให้ความสำคัญกับเสถียรภาพทางการเงินเป็นหลัก ตามด้วยการเติบโตและอัตราเงินเฟ้อ และ กนง. จะพยายามเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินนโยบาย (Policy Space) เมื่อภาวะเศรษฐกิจเอื้ออำนวย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงไตรมาส 4/62 ทั้งนี้ ด้วยท่าทีที่ต่างกันระหว่างเฟด และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงเชื่อว่าแรงกดดันการแข็งค่าของเงินบาทน่าจะยังมีอยู่

นายภาสกร ลินมณีโชติ รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า เป้าหมายดัชนี SET Index ในปีนี้ยังอยู่ที่ 1,750 จุด คาดการณ์กำไรของตลาดหุ้น (Market EPS) อยู่ที่ 12.8% โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีอัตราเติบโตของกำไรสูงสุด 3 อันดับ ได้แก่ กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ 23.7% กลุ่มสื่อสาร 20.3% และกลุ่มพลังงาน 13.6% โดยในส่วนของกลุ่มสื่อสารมาจากแนวโน้มการแข่งขันด้านราคาที่ลดลงเพื่อสะสมกำไรไว้ลงทุนระบบ 5G ส่วนกลุ่มพลังงานนั้นมาจาก ราคาน้ำมันที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นเนื่องจากอุปทานน้ำมันที่เริ่มหายไปจากมาตรการลดกำลังการผลิตน้ำมันของประเทสผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก)

ทั้งนี้ มองกลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นที่จะได้อานิสงส์จากการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่หรือมีแนวโน้มการดำเนินงานที่ดี ดังนี้ กลุ่มพาณิชย์ ,กลุ่มปิโตรเคมี ,กลุ่มรับเหมาโยธา และกลุ่มโรงไฟฟ้าดั้งเดิม/Conventional Power


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ