PTTOR เล็งเปิดร้าน"อเมซอน"ปีนี้ 400 แห่ง พร้อมชู Green Concept นำร่อง 5 แห่งปีนี้ ,เปิดสาขาแรกมาเลเซียในมิ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 8, 2019 12:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (PTTOR) ในกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในประเทศในปีนี้ราว 400 แห่ง จากปัจจุบันที่มีอยู่ 2,500 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่ยังคงเป็นขยายผ่านแฟรนส์ไชส์ในสัดส่วน 85% ขณะที่ส่วนที่เหลือจะเป็นการดำเนินงานโดยบริษัท ล่าสุดได้เปิดตัวต้นแบบร้านแห่งแรกภายในสถานีบริการน้ำมัน PTT Station บนถนนพระรามสี่ ใกล้บริเวณสามย่าน เป็นลักษณะของ Circular Living ภายใต้ Green Concept ที่ใช้วัสดุรีไซเคิลในการตกแต่งร้าน และนำวัสดุย่อยสลายมาเป็นใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับการใช้งานภายในร้าน โดยวางเป้าหมายจะเปิด 5 ร้านภายในปีนี้

"Circular Living เป็น Green Concept เป็นร้านที่พยายามจะใช้วัสดุรีไซเคิลเข้ามาตกแต่ง และใช้วัสดุย่อยสลายมาเป็น Supply use ซึ่งวางนโยบายไว้เกิน 50%"นายสุชาติ กล่าว

นายสุชาติ กล่าวว่า การที่ทั่วโลกให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือกระแสสีเขียว (Green) ที่มีมากขึ้นในปัจจุบัน ประกอบกับรัฐบาลและนโยบายของกลุ่มบมจ.ปตท. (PTT) ทั้งบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) และบมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ กลุ่ม PTT ก็จะร่วมกันดำเนินการผ่านทางร้านคาเฟ่ อเมซอน โดยเริ่มดำเนินการในส่วนแก้วกาแฟร้อน ที่เปลี่ยนมาใช้เป็นรูปแบบชนิดย่อยสลายได้ตั้งแต่ปี 54 จนถึงปัจจุบันมีการใช้แล้วรวม 80 ล้านแก้ว โดยในปีที่แล้วมียอดขายกาแฟร้อน 13 ล้านแก้ว ขณะที่แก้วกาแฟเย็นที่ใช้พลาสติกชีวภาพ ประเภท PLA เริ่มใช้ในสาขาที่เป็นของบริษัทเองเพราะยังมีข้อจำกัดเรื่องคุณสมบัติทั้งในส่วนความคงทนและต้นทุนที่สูงกว่าแก้วพลาสติกประเภท PP ทั่วไปราว 25-30% ซึ่งก็คงต้องมีการพัฒนาสินค้าต่อไป โดยปัจจุบันมีการใช้แก้ว PLA ประมาณ 1 ล้านแก้ว/ปี จากจำนวนยอดขายแก้วกาแฟเย็นที่มีสัดส่วน 80% ของยอดขายกาแฟทั้งหมด 216 ล้านแก้ว/ปี

อย่างไรก็ตามในส่วนการลดการใช้แก้วพลาสติกที่ทำเป็นมาตรการถาวร ด้วยการลดราคา 5 บาท/แก้ว สำหรับผู้ที่นำแก้วมาเองนั้น ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าโดยปัจจุบันมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 17% ของยอดขายแก้วกาแฟเย็นทั้งหมด จากช่วงเริ่มต้นที่มีสัดส่วนเพียง 3-5% ซึ่งกรณีนี้จะนับเป็นการช่วยลดการใช้พลาสติกไปโดยปริยาย ซึ่งบริษัทวางเป้าหมายจะเพิ่มสัดส่วนดังกล่าวเป็น 20% ภายในสิ้นปีนี้

ขณะเดียวกันในเดือนมิ.ย.เป็นต้นไป บริษัทเตรียมจะใช้หลอดย่อยสลายทั้งหมด จากปัจจุบันที่เริ่มมีการใช้บางสาขาแล้ว โดยปัจจุบันมีการใช้หลอดทั้งหมดราว 270 ล้านหลอด/ปี และในอนาคตก็อยู่ระหว่างการพัฒนาสินค้าประเภทถุงพลาสติกใส่แก้วกาแฟ ที่จะใช้วัสดุจากธรรมชาติทดแทนพลาสติก ซึ่งจะต้องมีความคงทนรองรับน้ำหนักได้ โดยมีเป้าหมายจะให้สำเร็จภายในปลายปีนี้

สำหรับพลาสติกประเภท PP ที่ใช้ในแก้วกาแฟเย็นเป็นส่วนใหญ่นั้น ก็จะนำไปรีไซเคิลเป็นสินค้าประเภทต่าง ๆ เช่น ถังขยะ หรือวัสดุตกแต่งร้าน และในอนาคตจะพัฒนาเรื่องสินค้าเฟอร์นิเจอร์ ต่อไป

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิด Cafe Amazon for Chance เพิ่มเติมอีก 4 สาขาในปีนี้ จากปัจจุบันที่เปิดแล้ว 4 สาขา โดยสาขาที่เตรียมเปิดใหม่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะเป็นการดำเนินการกลุ่มเด็กพิเศษ หลังจากก่อนหน้านี้เปิดสาขาที่ดำเนินการโดยผู้พิการด้านการได้ยินมาแล้ว

นายสุชาติ กล่าวว่า สำหรับร้านคาเฟ่ อเมซอน ปัจจุบันสามารถสร้างรายได้ราว 1.2 หมื่นล้านบาท/ปี โดยประมาณ 85% เป็นของแฟรนไชส์ ซึ่งนับเป็นการช่วยส่งเสริมและสร้างรายได้ให้กลุ่มเอสเอ็มอี โดยการลงทุนแต่ละสาขาอยู่ที่ราว 2.5-3 ล้านบาท/แห่ง ขึ้นกับพื้นที่ สามารถสร้างยอดขายราว 250 แก้ว/วัน/แห่ง ขณะที่ก่อให้เกิดการจ้างงานราว 12,500 คน จากจำนวนร้านที่มีอยู่ในประเทศทั้งหมด 2,500 แห่ง แบ่งเป็น ร้านภายในสถานีบริการน้ำมันของ PTT Station จำนวน 1,700 แห่ง และนอกสถานีบริการน้ำมัน 800 แห่ง โดยนับเป็นร้านกาแฟที่มียอดขายและสาขามากที่สุดในประเทศ

สำหรับร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ในต่างประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ 200 แห่ง ใน 7 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา ,ลาว ,สิงคโปร์ , ญี่ปุ่น ,เมียนมา ,ฟิลิปปินส์ และโอมาน และเตรียมที่จะเปิดสาขาแรกในเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-city) ที่มาเลเซีย ในเดือนมิ.ย.นี้ โดยในกัมพูชาและลาว นับว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ซึ่งการขยายสู่ต่างประเทศ เพื่อนำแบรนด์คนไทยสู่การเป็น Global Brand ตามเป้าหมาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ