BANPU ลบ 3.14% โบรกฯระบุทิศทางกำไร Q1/62 ยังอ่อนตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส -38%QoQ ตามธุรกิจถ่านหินชะลอตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 13, 2019 10:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้น BANPU ราคาไหลลง 3.14% มาอยู่ที่ 15.40 บาท ลดลง 0.50 บาท มูลค่าซื้อขาย 266.58 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.27 น. โดยเปิดตลาดที่ 15.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 15.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 15.30 บาท

บล.คิงส์ฟอร์ด ระบุในบทวิเคราะห์ฯปรับลดคำแนะนำหุ้นบมจ.บ้านปู (BANPU) เป็น "ถือ"จากเดิม"ซื้อ" ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 62 เท่ากับ 18 บาท ในระยะยาวเชื่อว่าราคาถ่านหินจะสามารถยืนที่ระดับ 80$/ton ได้เนื่องจากภาวะตลาดที่ค่อนข้างสมดุล แต่ยังคงต้องรอการปรับตัวของบริษัทด้วยการเพิ่มสัดส่วนกำไรจากธุรกิจอื่นที่ยังคงเติบโตให้มากขึ้น เพื่อลดความผันผวนของผลประกอบการในระยะยาว

BANPU รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1/62 พลิกกลับมากำไรสุทธิ 916 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิจากการบันทึกค่าใช้จ่ายในคดีหงสา อย่างไรก็ตาม ทิศทางกำไรยังคงอ่อนตัวติดต่อกัน 3 ไตรมาส -38%QoQ โดยหากตัดกำไรพิเศษที่เกิดจากการขายเหมือง Manerring ในประเทศออสเตรเลีย 42 ล้านเหรียญสหรัฐ กำไรจากตราสารอนุพันธ์ 26 ล้านเหรียญสหรัฐ และขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 17 ล้านเหรียญสหรัฐ พบว่ากำไรปกติเหลือเพียง 105 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตลาดคาดมาก

หลัก ๆ เป็นเพราะธุรกิจถ่านหินมีผลการดำเนินงานชะลอตัวจาก 1) ปริมาณขายถ่านหินรวม 7.9 ล้านตัน -32%QoQ แบ่งเป็นปริมาณขายจากเหมือง ITM อินโดนีเซีย 5.9 ล้านตัน -14%QoQ และเหมือง CEY ออสเตรเลีย 2 ล้านตัน -47%QoQ เป็นไปตามปัจจัยฤดูกาลที่เข้าฤดูฝนในอินโดนีเซียและการเคลื่อนย้าย Longwall ของเหมือง Mandalong ออสเตรเลีย 2) ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของ ITM -6%QoQ อยู่ที่ 72 $/ton ขณะที่ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของ CEY -6%QoQ อยู่ที่ 99 A$/ton เป็นไปในทิศทางเดียวกับราคาถ่านหินในตลาดและผลกระทบจากมาตราการควบคุมราคาขายในประเทศอินโดนีเซีย (Domestic Market Obligation : DMO) ด้านต้นทุนการผลิตต่อหน่วย ITM สูงขึ้นจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและการปรับ Stripping Ratio ส่วน CEY สูงขึ้นจากการเคลื่อนย้าย Longwall และการผลิตที่ยากขึ้น รวมแล้วทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 27% ลดลงจาก 35% ในไตรมาส 4/61 ธุรกิจ Shale gas ผลการดำเนินงานชะลอตัวเนื่องจากราคาก๊าซในตลาดสหรัฐฯปรับตัวลดลงทำให้อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 51% ลดลงจาก 53% ในไตรมาส 4/61

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศจีนมีผลการดำเนินงานดีขึ้น รายได้จากการขายไฟฟ้าและไอน้ำยังสูงตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่ต้นทุนถ่านหินที่ลดลง อัตรากำไรขั้นต้นจึงดีขึ้นเป็น 24% จาก 23% ใน 4Q61 ส่วนแบ่งกำไรเพิ่มขึ้นจากโรงไฟฟ้า BLCP ไม่มีการปิดซ่อมบำรุงและการผลิตที่ต่อเนื่องของโรงไฟฟ้า Hongsa อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะรวมค่าใช้จ่ายและภาษีที่ลดลงจากงวดก่อนหน้าเข้าไปแล้วก็ยังไม่สามารถชดเชยการหดตัวลงของธุรกิจหลักถ่านหินได้อยู่ดี


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ