ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ "ดีแทค ไตรเน็ต" วงเงินไม่เกิน 5 พันลบ. ที่ระดับ "AA/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 7, 2019 17:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด ที่ระดับ "AA" พร้อมทั้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "AA" ด้วยเช่นกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม รวมทั้งใช้เป็นเงินลงทุน และ/หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทย่อยรายสำคัญของ บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) (ได้รับอันดับเครดิต "AA/Stable" จากทริสเรทติ้ง) ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่รายใหญ่อันดับที่ 3 ของประเทศไทย

ทั้งนี้ ตามวิธีการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่ม (Group Rating Methodology) ของทริสเรทติ้ง บริษัทถือเป็นบริษัทย่อยรายสำคัญของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ดังนั้น อันดับเครดิตองค์กรของบริษัทจึงมีระดับเท่ากับอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทแม่และจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันเสมอ ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตของบริษัทยังมีปัจจัยเสริมจากการสนับสนุนจาก Telenor ASA (Telenor) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหลักของบริษัทแม่ของบริษัทอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวก็มีข้อจำกัดบางประการจากการแข่งขันที่รุนแรงในอุตสาหกรรม รวมไปถึงค่าใบอนุญาตที่มีราคาสูง และการลงทุนในระดับสูงเพื่อขยายโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ภายใต้เทคโนโลยีใหม่ ๆ

อันดับเครดิตสะท้อนสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่สำคัญของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น โดยพิจารณาจากทั้งฐานลูกค้าและการสร้างรายได้ในสัดส่วนสำคัญให้แก่บริษัทแม่ ทั้งนี้ เนื่องจากสัมปทานของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ได้สิ้นสุดลงเมื่อเดือนกันยายน 2561 ฐานลูกค้าทั้งหมดของบริษัทแม่จึงได้ย้ายไปอยู่บนโครงข่ายของบริษัท และในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 93% ของรายได้จากการให้บริการของบริษัทแม่

ผลการดำเนินงานทั้งในส่วนของบริษัทเองและของบริษัทแม่ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 อ่อนตัวลงกว่าประมาณการของ ทริสเรทติ้งเล็กน้อย รายได้จากการให้บริการและจำนวนลูกค้าในปี 2562 ยังคงได้รับแรงกดดันจากการแข่งขันที่รุนแรง โดยในไตรมาสแรกของปี 2562 บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น มีรายได้จากการให้บริการที่ไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (Interconnection Charges -- IC) อยู่ที่ 14,894 ล้านบาท ลดลง 7.1% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ด้วยสาเหตุเนื่องจากลูกค้าที่ใช้บริการระบบเติมเงินมีจำนวนลดลงละผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคา ณ เดือนมีนาคม 2562 จำนวนลูกค้ารวมของบริษัทมีทั้งสิ้น 20.7 ล้านราย ลดลงจาก 21.2 ล้านราย ณ สิ้นปี 2561

บริษัทแม่ของบริษัทอยู่ในช่วงของการขยายโครงข่ายสื่อสารให้ครอบคลุมทั่วประเทศรวมถึงปรับปรุงคุณภาพโครงข่ายให้ดีขึ้น โดยมุ่งหวังให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานโครงข่ายที่ดีขึ้นเพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นในการใช้บริการโครงข่ายสื่อสารของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งเห็นว่าบริษัทอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในบริการให้กลับคืนมา ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่ารายได้จากการให้บริการของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

สถานะทางการเงินของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น เกิดจากการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานที่เข้มแข็งและมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2562 บริษัทมีกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายประมาณ 6,400 ล้านบาท และมีเงินทุนจากการดำเนินงานประมาณ 5,500 ล้านบาท โดยทริสเรทติ้งคาดว่าในช่วงปี 2562-2564 บริษัทจะมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ระดับ 23,000-24,000 ล้านบาทต่อปี

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2562 คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกประกาศเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม โดยอนุญาตให้ผู้ประกอบการโทรคมนาคมสามารถขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาตการใช้คลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ออกเป็น 10 งวด โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ประกอบการที่เข้าร่วมการจัดสรรใบอนุญาตคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์จะได้รับการขยายเวลาการชำระเงินค่าคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ออกเป็น 10 งวด ทั้งนี้ บริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น โดยมีบริษัทเป็นตัวแทน ได้เข้ายื่นความประสงค์ขยายระยะเวลาชำระเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์ดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้ ตามตารางการชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์เดิมนั้นกำหนดให้บริษัทต้องชำระเงินปีละประมาณ 2,200 ล้านบาทในปี 2563 และปี 2564 และจะต้องชำระเงินก้อนใหญ่อีกประมาณ 32,100 ล้านบาทในปี 2565 ในขณะที่ตารางการชำระค่าใบอนุญาตใหม่จะช่วยให้ภาระในเงินจ่ายชำระคล่องตัวขึ้น โดยบริษัทจะชำระเงินประมาณ 7,900 ล้านบาทในปี 2563 และจะจ่ายชำระอีกปีละประมาณ 4,100 ล้านบาทในระหว่างปี 2564-2570

เมื่อพิจารณาจากสถานะการเงินในปัจจุบันของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น แล้ว บริษัทมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะชำระค่าใบอนุญาตตามกำหนดการได้ การขยายระยะเวลาการชำระค่าใบอนุญาตตามตารางเวลาใหม่นั้นจะช่วยสร้างความสม่ำเสมอของกระแสเงินสดออกและลดการตึงตัวของสภาพคล่องโดยเฉพาะในปี 2565 ลงได้อย่างมาก อย่างไรก็ตาม การที่บริษัทต้องรับการจัดสรรคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์เพื่อแลกกับการขยายเวลาการชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 เมกะเฮิรตซ์นั้นจะเพิ่มภาระหนี้สินทางการเงินให้แก่บริษัท โดยทริสเรทติ้งมีสมมติฐานว่าใบอนุญาตใช้คลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์จำนวน 10 เมกะเฮิรตซ์จะมีมูลค่าประมาณ 17,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ในวิธีการพิจารณาอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งจะนับให้ค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่เป็นหนี้สินทางการเงิน ดังนั้น บริษัทจะมีภาระหนี้สินทางการเงินเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 17,600 ล้านบาทเมื่อบริษัทได้รับการจัดสรรใบอนุญาต

ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินกู้รวมซึ่งรวมถึงภาระผูกพันในการจ่ายชำระค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จะเพิ่มขึ้นจากประมาณการครั้งก่อน โดยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนของบริษัทจะอยู่ในช่วง 66%-75% ในช่วงปี 2562-2563 ซึ่งสูงขึ้นจากระดับที่คาดการณ์ไว้ในครั้งก่อนที่ 60%-75% โดยอัตราส่วนนี้คาดว่าจะค่อย ๆ ลดลงเมื่อบริษัทเริ่มมีรายได้จากการใช้ประโยชน์จากคลื่นความถี่ใหม่ ในขณะที่อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินจะอยู่ในช่วง 30%-35% ในช่วงปี 2562-2564 โดยลดลงจากที่ประมาณการครั้งก่อนที่ 30%-45%

สถานะเครดิตของบริษัทดีแทค ไตรเน็ตขึ้นอยู่กับคุณภาพเครดิตที่แข็งแกร่งของบริษัทแม่ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งมีความเห็นว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องที่เพียงพอที่จะรองรับภาระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้โดยพิจารณาจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทแม่และการสนับสนุนที่บริษัทได้รับจากบริษัทแม่อย่างเต็มที่

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าสถานะทางการตลาดของบริษัทจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาและผลการดำเนินงานของบริษัทจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงสภาพคล่องที่เพียงพอได้ต่อไป นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดหวังว่าสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยรายสำคัญของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จะยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลงอีกด้วย

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

ตามวิธีการจัดอันดับเครดิตแบบกลุ่มของทริสเรทติ้ง อันดับเครดิตของบริษัทดีแทค ไตรเน็ต จะเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของบริษัทโทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงใดใดในอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทแม่ก็จะส่งผลกระทบต่อสถานะเครดิตของบริษัทดีแทค ไตรเน็ต ด้วยเช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ