ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,633.56 จุด ลดลง 4.68 จุด (-0.29%) มูลค่าการซื้อขาย 66,880.96 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีทำระดับสูงสุดที่ 1,638.03 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ 1,627.30 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 676 หลักทรัพย์ ลดลง 903 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 418 หลักทรัพย์
นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงลักษณะคล้ายกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ซึมทั้งสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนต่างรอดูหลายปัจจัย และเริ่มไม่มั่นใจทิศทางตลาดหุ้น แม้ไทยจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะได้ผลสำเร็จแค่ไหน ทำให้นักลงทุนเลือกเล่นหุ้นตามข่าวรายวัน โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มปลอดภัย อย่างกลุ่มโรงไฟฟ้าและกลุ่มสื่อสาร กลับมาเป็นที่สนใจอีกรอบ ขณะที่หุ้นที่เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจจะปรับตัวลง ยกเว้นหุ้นในกลุ่มค้าปลีก อย่างหุ้น BJC นอกนั้นจะระมัดระวังการลงทุน อย่างกลุ่มแบงก์
ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบเล็กน้อย ลักษณะเดียวกับตลาดบ้านเรา คือ Wait & See ตอนนี้ตลาดฯรอความคืบหน้าของสงครามการค้าสหรัฐและจีนที่คาดว่าจะเจรจากันในสัปดาห์หน้า ในส่วน Fund Flow ในภูมิภาคขายติดต่อกัน 2-3 สัปดาห์ และเริ่มมีแรงซื้อกลับใน 1-2 วันนี้ ดังนั้น จึงยังไม่มั่นใจและต้องการรอทิศทางให้ชัดเจนก่อน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (23 ส.ค.) นายมงคล กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงรอปัจจัยใหม่เข้ามาสนับสนุน พร้อมให้แนวรับ 1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,543.41 ล้านบาท ปิดที่ 42.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
GULF มูลค่าการซื้อขาย 3,099.47 ล้านบาท ปิดที่ 136.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,022.04 ล้านบาท ปิดที่ 85.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,906.23 ล้านบาท ปิดที่ 230.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BTS มูลค่าการซื้อขาย 1,858.66 ล้านบาท ปิดที่ 13.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท