KTBST คาด SET สัปดาห์นี้แกว่งกรอบ 1,620-1,650 จุด รับแรงหนุนเจรจาการค้าสหรัฐ-จีน ,เกาะติดประชุมสภาฯถกงบปี 63

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 15, 2019 15:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST เปิดเผยว่า ทิศทางตลาดและการลงทุนในสัปดาห์นี้ (15-18 ต.ค. 62) มีกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1,620-1,650 จุด โดยได้รับแรงบวกจากผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ตลาดยังจับตาการทำข้อตกลงในเดือนหน้าอีกครั้ง รวมทั้งการอัดฉีดเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เพื่อกระตุ้นสภาพคล่อง และประเด็นภายในประเทศจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563

ทั้งนี้ จากผลการเจรจาระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ออกมา ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับผลบวก โดยวานนี้ (14 ต.ค.) ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวบวกในระดับที่ดีพอควร แต่ไม่บวกแรงเกินความคาดหมายนัก ยังมีประเด็นที่สองฝ่ายยังต้องทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จคาดว่าภายใน 1 เดือน เพื่อให้มีผลในทางปฎิบัติจริงออก ขณะที่การเลื่อนปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน ที่จะมีขึ้นในวันที่ 15 ต.ค. ออกไปนั้น ได้ลดความกังวลกับตลาดลงไปได้มาก

ดังนั้น KTBST ประเมินว่า ตลาดจะเริ่มให้ความสนใจกับตัวแปรอื่น ๆ มากขึ้น เช่น การเตรียมเปิดวงเงินซื้อพันธบัตรรอบใหม่จำนวน 6 หมื่นล้านเหรียญฯต่อเดือน ของเฟดที่จะเริ่มประมาณกลางเดือน ต.ค. จนสิ้นสุดไตรมาสที่สองของปีหน้า เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดเงิน และอาจทำให้โอกาสลดดอกเบี้ยของเฟด ในเดือน ต.ค. น้อยลง

ส่วนปัจจัยในประเทศนั้น เงินลงทุนที่กลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งในช่วง 2 วันสุดท้ายของก่อนสัปดาห์ก่อนที่มีการซื้อขายสูงถึง 5-6 หมื่นล้านบาทต่อวัน จะเป็นปัจจัยหนุนให้เกิดแรงซื้อหุ้นสูงขึ้นในสัปดาห์นี้ ประเด็นที่น่าสนใจคือ การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายปี 2563 วาระแรก จำนวน 3.2 ล้านล้านบาท ในวันที่ 17 ต.ค. หากไม่ผ่านการพิจารณาจะมีผลต่อเสถียรภาพรัฐบาล ขณะที่ตัวแปรอื่นๆ นั้นที่ต้องติดตามคือการพิจารณามาตรการกระตุ้นท่องเที่ยว รวมถึงการทยอยรายงานผลกำไรไตรมาส 3 ของหุ้นกลุ่มธนาคารและการเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นที่จะประกาศผลประกอบไตรมาส 3 นอกจากนี้ยังมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญของไทย คือ การรายงานยอดขายรถยนต์เดือน ก.ย.

สำหรับการลงทุนในสัปดาห์นี้ KTBST ประเมินว่า เนื่องจากตลาดได้สะท้อนข่าวการเจรจาการค้าที่ได้ผลดีระดับหนึ่งแล้ว คาดว่าแรงซื้อจะทยอยกลับเข้ามาในตลาด มองเป้าดัชนีสัปดาห์นี้ที่ 1,650 จุด กลยุทธ์ลงทุนสัปดาห์นี้ แนะนำปรับการถือเงินสดกลับขึ้นมาเป็น 20% โดยหุ้นที่น่าลงทุนนั้นคาดว่านักลงทุนจะยังคงให้ความสนใจกับหุ้นเสี่ยงต่ำอยู่ เช่น โรงไฟฟ้า , สื่อสาร และทยอยเข้าซื้อหุ้นกลุ่มที่ได้รับผลบวกจากสงครามการค้า เช่น หุ้นบางตัวในกลุ่มปิโตรเคมี , โรงแรม ทั้งนี้ หุ้นที่คาดว่าจะได้รับผลบวกเจรจาการค้าจะประกอบด้วย BGRIM, ADVANC, PTTGC, CENTEL ขณะที่หุ้นที่ถูกคาดว่ากำไรไตรมาส 3 จะออกมาดี ประกอบด้วย EA, PRM, JMT, MTC KTBST


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ