(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามตลาดตปท.หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯดีกว่าคาด-ราคาน้ำมันพุ่งแรง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 4, 2019 09:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะรีบาวด์ขึ้น จากบรรยากาศตลาดต่างประเทศที่ดีขึ้น โดยดาวโจนส์ได้ปรับตัวขึ้นกว่า 300 จุด รับผลจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯออกมาดีกว่าคาด และราคาน้ำมันก็พุ่งขึ้นเกือบ 4% ด้วย จากความคืบหน้าเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ทางฝั่งจีนได้ออกมาระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องร่วมกันในหลักการแล้ว ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็บวกกันทั่วหน้า

ส่วนบ้านเรามีปัจจัยบวกจากบริษัท Rating and Investment Information, Inc. (R&I) ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย(Issuer Credit Rating) จากระดับ BBB+ เป็น A- ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่อ Fund Flow

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยุโรป ที่จะทยอยประกาศออกมา ส่วนบ้านเราก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการต่อไป ซึ่งวันนี้คาดว่า IRPC จะประกาศงบฯ

พร้อมให้แนวรับ 1,590 จุด แนวต้าน 1,600-1,605 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (1 พ.ย.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 27,347.36 จุด เพิ่มขึ้น 301.13 จุด (+1.11%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,066.91 จุด เพิ่มขึ้น 29.35 จุด (+0.97%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,386.40 จุด เพิ่มขึ้น 94.04 จุด (+1.13%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 6.38 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 199.12 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 52.19 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.12 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 8.42 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 4.94 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 25.35 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 11.94 จุด

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันวัฒนธรรมแห่งชาติ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (1 พ.ย.62) 1,592.52 จุด ลดลง 8.97 จุด (-0.56%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,007.71 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 พ.ย.62
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (1 พ.ย.62) ปิดที่ 56.20 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 3.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (1 พ.ย.) อยู่ที่ 3.44 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 30.18 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 30.15-30.25 ติดตามคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯและจีน
  • สมาคมบริษัทจดทะเบียน เผยเริ่มเห็น บจ.ไทยให้ความสำคัญกับการหาธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้น หลังเผชิญกับเทคโนโลยีที่เข้ามาดิสรัป รวมทั้งเศรษฐกิจที่ชะลอตัว นำระบบ "ออโตเมชั่น-เอไอ" เข้ามาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิต ด้าน "สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์" แตกไลน์ธุรกิจลุยลงทุนในบริษัทผลิตหุ่นยนต์ มั่นใจอนาคตมาแน่ พร้อมเร่งศึกษาธุรกิจอื่นเพิ่ม ขณะ "ที.กรุงไทยฯ" เล็งหา ธุรกิจด้านพลาสติกเข้ามาเสริม หวังการเติบโต
  • โบรกฯเปิดโผหุ้น เข้าคำนวณ MSCI รอบใหม่ ลุ้น GPSC-SAWAD ตัวเต็งคาดเม็ดเงินไหลเข้าเก็งกำไรทะลัก พร้อมแนะจับตาเอฟเฟคปรับเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน ส่อฉุดฟันด์โฟลไหลออก 2.4 พันล้านบาท
  • "คมนาคม" ลุยชงครม.ไฟเขียวกรอบวงเงินจ่ายค่าเวนคืนมอเตอร์เวย์ "บางใหญ่กาญจน์" 1.2 หมื่นล้านบาท ลุยจ่ายครบภายใน ธ.ค.นี้ ทล.ขอยืดเวลาก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการปี 66
  • ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ทำบทวิจัยเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดอาเซียน (อาเซียน ซัมมิท) ครั้งที่ 35 ที่ประเทศไทยคาดว่า ไทยจะได้ประโยชน์ด้านการส่งออกสินค้ายานยนต์และชิ้นส่วนไปอาเซียน หลังประกาศเป็นความสำเร็จข้อตกลงยอมรับร่วมผลการตรวจสอบและรับรองมาตรฐานความปลอดภัยของยานยนต์และชิ้นส่วนอาเซียน เพื่อใช้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับชิ้นส่วนยานยนต์บางรายการ อาทิ ระบบเบรก เข็มขัดนิรภัย ที่นั่ง ยางรถยนต์ ระบบควบคุมรถยนต์ ทำให้ไม่ต้องตรวจสอบซ้ำ ช่วยลดเวลาและต้นทุนการส่งออก โดยปัจจุบันไทยส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วนไปอาเซียนถึง 3.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 30% ของทั้งหมด
  • รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า วันที่ 6 พ.ย.นี้ ได้นัดประชุมร่วม 4 ฝ่าย เพื่อสรุปการควบรวบกิจการ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม หรือแคท เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำข้อสรุปเสนอ ครม.เพื่อพิจารณาต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTEP (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 135 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบกลับมาฟื้นตัว และไม่มี Over hang จากงบ Q3/62 มากวนใจเพราะประกาศงบไปแล้ว ขณะที่แนวโน้มงบ Q4/62 จะยังเด่นสุดของกลุ่ม PTT เพราะมีแรงหนุนจากปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นจากการรับรู้การผลิตจากแหล่งเมอร์ฟี่ที่ซื้อเข้ามาเต็มไตรมาส
  • PTT (หยวนต้า) "สะสม"ประเมินว่า หุ้นกลุ่ม Global Play มีแนวโน้มฟื้นตัว เนื่องจากคาดว่าจีนและสหรัฐฯจะบรรลุข้อตกลงทางการค้าเฟสแรกและเซ็นสัญญาได้ภายในเดือน พ.ย. นอกจากนี้ PTT รายงานผลประกอบการ Q3/62 วันอังคารที่ 12 พ.ย. ราคา ณ ปัจจุบัน ซื้อขายที่ PE ปี2562 ที่ 11.4 เท่า และให้ Dividend Yield ราว 4% ต่อปี
  • IRPC (เคทีบี) "ซื้อ"เป้าเชิงกลยุทธ์ 3.50 บาท ราคาถูก หากเทียบกับราคาของต้นทุนการถือครองของผู้ถือหุ้นใหญ่ (ปตท.) ที่ประมาณ 4.12 บาท/หุ้น และปัจจุบันเทรด PBV ปีนี้ที่ระดับ -3SD หรือต่ำกว่ามูลค่าตามบัญชีปัจจุบันที่ 4.22 บาท/หุ้น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ