นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ (ALL) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าในช่วงต้นปี 63 จะสามารถสรุปการเจรจาร่วมทุนกับพันธมิตรเพื่อลงทุนในโครงการโรงแรมและอาคารสำนักงานทำเลปริมณฑล ซึ่งจะเป็นการร่วมทุนกับพันธมิตรอีก 2 ราย โดย 1 ในนั้นจะเป็นพันธมิตรเดิมที่บริษัทได้มืการร่วมทุนพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมร่วมกันอยู่แล้ว คือ JR Kyushu และอีก 1 รายเป็นพันธมิตรที่มีความชำนาญในการพัฒนาโรงแรมและอาคารสำนักงาน
ทั้งนี้ การลงทุนโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างรายได้ประจำให้กับบริษัท เป็นแผนสร้างการเติบโตและถือปรับพอร์ตให้มีการกระจายรายได้ไปที่รายได้ประจำมากขึ้น ซึ่งบริษัทตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนรายได้ประจำ (Recurring Income) เป็น 10% ของรายได้รวมภายในปี 64 จากปัจจุบันยังไม่มีรายได้ประจำเข้ามา โดยโครงการแรกที่จะสร้างรายได้ประจำเข้ามา คือ อาคารศูนย์การค้า The New Forum Plaza ชลบุรี ซึ่งจะปรับปรุงแล้วเสร๊จ และเริ่มเปิดให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 2/63 ปัจจุบันมีผู้เช่าเข้ามาติดต่อเช่าพื้นที่แล้วเกือบ 90% และจะสร้างรายได้เฉลี่ยราว 200 ล้านบาท/ปี
สำหรับแผนงานในปี 63 เบื้องต้นจะมีการเปิดตัวคอนโดมิเนียม Low Rise จำนวน 3 โครงการ มูลค่ารวมราว 3 พันล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการขอใบอนุญาตวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) และจะเปิดตัวโครงการแนวราบมากขึ้น หลังจากที่บริษัทเริ่มเห็นความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นมาก และกลุ่มลูกค้าของบริษัทเริ่มมองหาโครงการแนวราบในการพักอาศัยมากขึ้น ประกอบกับเป็นการขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น หลังจากเปิดโครงการแนวราบโครงการแรกไปแล้ว คือ ทาวน์โฮม The Vision ลาดพร้าว-นวมินทร์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี บริษัทวางเป้าหมายในปี 63 พอร์ตโครงการแนวราบจะเพิ่มขึ้นเป็น 10% และจะขยับเป็น 20% ในปี 64 ซึ่งการพัฒนาโครงการแนวราบโดยเฉพาะทาวน์โฮม จะมีการกระจายระดับราคาไม่ให้ซ้ำกับคอนโดมิเนียม โดยเฉพาะแบรนด์ The Excel ที่ราคาขายไม่เกิน 3 ล้านบาท ซึ่งทาวน์โฮมของบริษัทจะมีระดับราคาขาย 3-4 ล้านบาท และบ้านเดี่ยวจะมีราคาขายที่ 4 ล้านบาทขึ้นไป ทำเลของโครงการจะมีความแตกต่างกันในแต่ละรูปแบบ ซึ่งในปี 63 เบื้องต้นวางแผนเปิดทาวน์โฮมและบ้านเดี่ยวไว้แล้ว 2 โครงการ ส่วนงบซื้อที่ดินตั้งไว้ที่ 3 พันล้านบาทรองรับการพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงปี 63-64
นายธนากร กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในปี 62 คาดว่ายอดขายจะทำได้เกินเป้าหมาย 7 พันล้านบาท หลังจากช่วง 9 เดือนแรกทำยอดขายแล้ว 6.5 พันล้านบาท ส่วนรายได้ยังมั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย 4.5 พันล้านบาท หลังจากที่ 9 เดือนมีรายได้แล้ว 2.33 พันล้านบาท โดยมองว่ายอดขายและรายได้ในช่วงไตรมาส 4/62 จะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการของภาครัฐที่จะช่วยกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ทั้งการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอนและค่าจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท และโครงการบ้านในฝัน ซึ่งโครงการของบริษัทเกือบทั้งหมดเข้าเกณฑ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นปัจจัยบวกต่อผลดำเนินงานช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้ และจะทำให้ผลงานไตรมาส 4/62 เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปี
ส่วนการโอนโครงการสร้างเสร็จใหม่ในไตรมาส 4/62 จำนวน 3-4 โครงการ ซึ่งจะเป็นการโอนต่อเนื่องไปถึงต้นปี 63 ได้แก่ คอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ The Excel Hideaway สุขุมวิท 50 มูลค่า 1.86 พันล้านบาท และ The Excel Hideaway สุขุมวิท 71 มูลค่า 1.56 พันล้านบาท รวมถึงโครงการแนวราบ 2 โครงการ คือ The Vision ลาดพร้าว-นวมินทร์ มูลค่า 1.39 พันล้านบาท และ Impression ภูเก็ต มูลค่า 2.07 พันล้านบาท โดยจะมีการโอนจากมูลค่ายอดขายรอโอน (Backlog) ที่เข้ามาในช่วงไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 30% ของ Backlog ทั้งหมดที่มี 1.14 หมื่นล้านบาท และบริษัทจะเพิ่มระดับของ Backlog ให้เพิ่มขึ้นมาที่ 1.2 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของรายได้ในอนาคต