นางจิตเกษม หมู่มิ่ง ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการเงิน บมจ.วีจีไอ (VGI) เปิดเผยว่า บริษัทคาดรายได้งวดปี 62/63 (เม.ย.62-มี.ค.63) จะอยู่ที่ 3,800-4,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะมีรายได้ 6,000-6,200 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทได้ดำเนินการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 1,080 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 19.96% ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ บมจ.มาสเตอร์ แอด (MACO) ให้แก่ บมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB) ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นลดลงเหลือ 26.55% จากเดิมที่ 33.17% ทำให้ส่วนแบ่งรายได้ลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทจะมีการปรับลดการรับรู้รายได้ให้สะท้อนสัดส่วนการถือหุ้นใน MACO ที่ลดลงตามที่ปรากฎในผลประกอบการงวดปี 60/61 (เม.ย. 60- มี.ค. 61) และ 61/62 (เม.ย. 61- มี.ค. 62) เพื่อให้สามารถเปรียบเทียบผลประกอบการที่แท้จริงได้ดีขึ้น จะส่งผลให้รายได้ในงวดปี 62/63 ที่ไม่รวม MACO เติบโต 15-20% เมื่อเทียบกับงวดปี 61/62 เนื่องจากบริษัทได้ขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการขยายธุรกิจสื่อดิจิตอลนอกบ้านที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบให้เป็นดิจิตอลจากเดิมที่เป็นภาพนิ่ง ส่งผลให้สามารถรับลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 20-30 รายในระยะเวลาเดียวกัน จากเดิมที่รับลูกค้าได้เพียง 1 ราย และยังมีการปรับขึ้นค่าบริการเฉลี่ยราว 10% อีกด้วย
"หากเปรียบเทียบสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากันที่ระดับ 26.55% ก็จะยังเห็นว่ารายได้ในงวดปี 62/63 จะยังเติบโตได้ 15-20% เมื่อเทียบกับงวดปี 61/62 เนื่องจากบริษัทยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการขยายกิจการ และสื่อโฆษณาที่ทันสมัยช่วยให้รับลูกค้าได้หลายรายในระยะเวลาเดียวกัน และการปรับราคาให้เหมาะสมมากขึ้นด้วย"นางจิตเกษม กล่าว
ด้านงบลงทุนสำหรับงวดปี 62/63 (เม.ย.62-มี.ค.63) คาดว่าจะใช้ทั้งหมดราว 600 ล้านบาท โดยในช่วง 3 ไตรมาสที่ผ่านมาบริษัทใช้งบลงทุนไปแล้วราว 428 ล้านบาท โดยจะใช้ในการขยาย สื่อโฆษณาบนระบบขนส่งมวลชน (Transit Media) สื่อนอกบ้าน (Outdoor Media) การบริการด้านสื่อดิจิตอล (digital Service) เป็นต้น
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/62-63 (ม.ค.-มี.ค.63) คาดว่าจะชะลอตัวจากไตรมาส 3/62-63 (ต.ค.-ธ.ค.62) ที่มีรายได้ 1,867 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 401 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี เนื่องจากในช่วงไตรมาส 3 เป็นช่วงไฮซีซั่น (high season) ของธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/62-63 จะเติบโตขึ้นกว่าอุตสาหกรรม จากการเป็นผู้นำด้านสื่อ ทั้งสื่อออนไลน์ (online) และสื่อออฟไลน์ (offiline) ที่ครบวงจรที่สุดในประเทศไทย และมีข้อมูลลูกค้าที่จะเข้าถึงได้ตรงเป้าหมาย จากการมีแรบบิท การ์ด (Rabbit Card) และแรบบิท ไลน์เพย์ (Rabbit LINE Pay)
ณ สิ้น เดือน ธ.ค.62 Rabbit Card มีฐานลูกค้ารวม จำนวน 12.6 ล้านราย เติบโต 22.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ Rabbit LINE Pay มีฐานลูกค้ารวม 7 ล้านราย เติบโต 37.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน