นางสาววัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา (CPN) เปิดเผยว่า เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและไม่มีความไม่แน่นอนอย่างมากนั้น บริษัทจึงได้ขอความร่วมมือพันธมิตรร้านค้าในการดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสุดความสามารถ และเป็นการร่วมมือให้สอดคล้องกับมาตรการของภาครัฐที่ยกระดับมาตรการเพื่อลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรค อีกทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของพันธมิตรร้านค้าด้วย
โดยสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ทางศูนย์การค้าปรับเปลี่ยนเวลาการเปิด-ปิดทำการของศูนย์การค้าเซ็นทรัลฯ เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 63 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สำหรับศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ , เซ็นทรัลพลาซา, เซ็นทรัลเฟสติวัล และเซ็นทรัล วิลเลจ รวม 29 สาขา จะเปลี่ยนแปลงเวลาการเปิด-ปิด เป็นเวลาเปิดบริการ 11.00-20.00 น. ทุกวันจันทร์-อาทิตย์
ส่วนเซ็นทรัล ภูเก็ตฟลอเรสต้า & เฟสติวัล, เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว, เซ็นทรัลเฟสติวัล พัทยา บีช และเซ็นทรัลพลาซา แกรนด์ พระราม 9 รวม 4 สาขา จะเปลี่ยนแปลงเวลาการเปิด-ปิด เป็นเวลาเปิดบริการ 11.00-20.00 น. ในวันจันทร์-พฤหัสบดี และเวลา 11.00-22.00 น. ในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
สำหรับ "เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และ ท็อปส์" เปิดให้บริการตามเวลาปกติของแต่ละสาขา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการซื้อสินค้าที่จำเป็น
ขณะที่การให้การช่วยเหลือร้านค้าภายในศูนย์การค้าด้วยการให้ส่วนลดค่าเช่าของแต่ละร้านค้าตามความรุนแรงที่ได้รับผลกระทบในแต่ละศูนย์การค้าและในแต่ละช่วงเวลาที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ 10-50% โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีร้านค้าทั้งรายใหญ่และรายเล็กเป็นจำนวนมากทั่วประเทศที่จะต้องให้การดูแลอย่างทั่วถึง
ทั้งนี้ บริษัทได้เล็งเห็นความสำคัญการเป็นส่วนหนึ่งให้สังคมไทยสามารถเดินหน้าต่อไปในสภาวะแบบนี้ได้ จึงยังคงเปิดให้บริการศูนย์การค้าเพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนใช้ชีวิตได้ตามความจำเป็น และจะร่วมกับพันธมิตรร้านค้าฟันฝ่าสถานการณ์นี้ และจะกลับมาเติบโตอย่างเข้มแข็งไปด้วยกัน