โบรกฯเชียร์"ซื้อ"KTC เล็งผลงานฟื้น H2/63 หลังปลดล็อกดาวน์-สินเชื่อยังขยายตัวแม้ศก.ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 7, 2020 14:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ แนะนำ"ซื้อ"หุ้น บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) เล็งผลการดำเนินงานจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปีนี้หลังปลดล็อกดาวน์ส่งผลการจับจ่ายใช้สอยลูกค้าเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าสินเชื่อปีนี้จะยังเติบโตได้ท่ามกลางเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่เบื้องต้นคาดว่าทั้งปี KTC จะตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นไม่มาก ส่งผลให้ยังสามารถทำผลกำไรได้เติบโตจากปี 62 ประเมินว่าปีนี้จะมีกำไร 5,600-6,000 ล้านบาท เติบโตจากปี 62 ที่มีกำไร 5,524 ล้านบาท

สำหรับไตรมาส 2/63 คาดว่ากำไรสุทธิจะหดตัวอย่างหนัก จากมาตรการปิดเมืองในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิตของ KTC นอกจากนี้ ยังส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยคาดว่าจะเห็นการเร่งตัวของหนี้ NPL ซึ่งจะส่งผลตอ่เนื่องถึงค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองคาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ราคาหุ้น KTC ในปัจจุบันก็ถือว่ายังมี upside อยู่มากเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย

พักเที่ยง ราคาหุ้น KTC อยู่ที่ 31 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.81% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 1.34%

          เอเชีย เวลท์                       ซื้อ                     45.00
          เอเอสแอล                         ทยอยซื้อ                 43.00
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)        ซื้อ                     40.00
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)                 ซื้อ                     40.00
          หยวนต้า (ประเทศไทย)               ซื้อเก็งกำไร              38.00
          แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์                   ซื้อเก็งกำไร              36.25

นายอดิสรณ์ มุ่งพาลชล รองผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ให้เหตุผลแนะ"ซื้อ"หุ้น KTC เนื่องจากสินเชื่อในปีนี้คาดว่าจะยังเติบโตได้ในระดับ 2% ชะลอตัวจากปีที่แล้วที่เติบโต 9% ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง จากสถานการณ์โควิด-19 เป็นหลัก ขณะที่มาตรการของภาครัฐฯที่ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้ลูกหนี้ แม้จะส่งผลกระทบต่อรายได้ของกลุ่มสินเชื่อรายย่อย แต่ก็น่าจะถูกชดเชยจากภาพรวมสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นได้

เบื้องต้นปีนี้คาดว่า KTC จะไม่ตั้งสำรองฯเพิ่มขึ้นมากหลังจากได้ตั้งสำรองฯไว้มากแล้วในช่วงที่ผ่านมา ดังนั้น กำไรของ KTC ปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 6,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% จากปีที่แล้ว ที่มีกำไรราว 5,500 ล้านบาท และราคาหุ้นในปัจจุบันก็ถือว่ายังมี upside อยู่มากเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย

สำหรับหนี้สงสัยจะสูญ (NPL) ในไตรมาส 2/63 คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1/63 ที่มีอยู่ 4% หลังจากที่ได้ใช้มาตรฐานบัญชีใหม่ เนื่องจากไตรมาส 2/63 คงจะรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 และเศรษฐกิจชะลอตัว ขณะที่ปีนี้คาดว่า NPL ของ KTC จะอยู่ที่ราว 6% เพิ่มขึ้นจากปี 62 ที่อยู่ในระดับราว 1%

บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯมองปัจจัยพื้นฐานของ KTC ยังไม่เปลี่ยนแปลง เพียงแต่ได้รับผลกระทบจากล็อกดาวน์ และมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ในระยะสั้นเท่านั้น จึงเชื่อว่าภายหลังสถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น และมีการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ในเขตเมืองจะทำให้ประชาชนกลับมาจับจ่ายใช้สอยอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลบวกโดยตรงต่อ KTC

ทั้งนี้ คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 2/63 หดตัวอย่างหนัก จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้รัฐบาลออกมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อปริมาณการใช้จ่ายบัตรเครดิตของ KTC เนื่องจากปกติส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในกลุ่มร้านอาหารและกลุ่มท่องเที่ยวเป็นหลัก นอกจากนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้ โดยคาดว่าในไตรมาส 2/63 จะเห็นการเร่งตัวของหนี้ NPL เพิ่มขึ้น และจะส่งผลต่อค่าใช้จ่ายสำรองที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้น

นอกจากนี้ KTC มีความตั้งใจที่จะใช้เกณฑ์การตั้งสำรองตามมาตรฐาน TFRS9 โดยไม่ใช้เกณฑ์ผ่อนปรนของธนาคารแห่งประเทศไทย ดังนั้น คาดว่าตัวเลข NPL ในช่วงไตรมาส 2/63 ที่ออกมา จะสะท้อนสถานการณ์จริงในปัจจุบันแล้ว ทำให้ความกังวลต่อ NPL ที่อาจจะสูงขึ้นในภายหลังมีแนวโน้มลดลง

ด้านบทวิเคราะห์ บล.เอเอสแอล ระบุว่าภาพรวมผลดำเนินงานของ KTC ได้รับผลกระทบในระยะสั้น โดยเฉพาะในไตรมาส 2/63 แต่มองว่าราคาที่ปรับตัวลงก่อนหน้านี้น่าจะสะท้อนปัจจัยลบไปพอสมควรแล้ว และมองว่ามีการปลดล็อกดาวน์เป็น Sentiment เชิงบวกและช่วยให้มีการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้ามากขึ้น ส่งผลต่อแนวโน้มผลประกอบการจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง

พร้อมปรับลดกำไรสุทธิปี 63 ลงมาสู่ระดับ 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อน จากการเติบโตของปริมาณการใช้บัตรเครดิต และยอดสินเชื่อส่วนบุคคลที่หดตัวลงในช่วงไตรมาส 2/63 ที่มีการล็อกดาวน์ประเทศกว่าครึ่งไตรมาส ส่งผลให้แนวโน้มกำไรสุทธิในไตรมาส 2/63 หดตัวลง แต่คาดว่าผลประกอบการจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ