ดัชนีหุ้นไทยภาคบ่ายร่วงลงต่อไปเป็นกว่า 20 จุด ตามทิศทางตลาดภูมิภาคที่ส่วนใหญ่ปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลต่อสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ ขณะที่ล่าสุดมีข่าวพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ภายในประเทศไทยหลังพ้นการกักตัว 14 วัน
เมื่อเวลา 14.53 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,319.53 จุด ลดลง 10.58 จุด (-0.80%)
ล่าสุด เมื่อเวลา 15.36 น. ดัชนี SET อยู่ที่ 1,309.84 จุด ลดลง 20.27 จุด (-1.52%)
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้ปรับตัวลง ซึ่งก็มองว่าตลาดฯเป็นลักษณะของการลงทุนแบบสลับวนกลุ่มเล่นเก็งกำไร เนื่องจากตลาดฯยังไม่มีปัจจัยใหม่หนุนให้ตลาดฟื้นตัวขึ้นได้หลังจากเสร็จสิ้นการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียนไปแล้ว
ด้านตลาดต่างประเทศก็เคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็บวกได้เล็กน้อย เช่นเดียวกับดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่บวกเล็กน้อย โดยต่างรอดูรายงานการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) คืนวันนี้ (19 ส.ค.) และพัฒนาการของความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งก็ยังไม่มีความแน่นอน
ล่าสุดรายงานข่าวจากกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ตรวจพบคนไทย 1 ราย ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างเข้ามารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาล ซึ่งกรมควบคุมโรคได้ส่งทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว และจะมีการแถลงผลให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลเบื้องต้นระบุว่าผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว เป็นผู้ที่เคยทำงานในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเข้าพักที่สถานที่กักกันของรัฐจนครบ 14 วันเมื่อเดินทางกลับมายังประเทศไทย หลังจากนั้นได้ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ