นางสลิลทิพ เรืองสุทธิภาพ รองกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชี การเงิน และสนับสนุนองค์กร บมจ.ดูโฮม (DOHOME) เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่ายอดขายในปี 63 จะเติบโตได้จากปี 62 จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 10% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกยอดขายเติบโตขึ้นมาได้เล็กน้อย และช่วงครึ่งปีหลังภาครัฐผ่อนคลายมาตรการปิดเมือง (Lockdown) ส่งผลให้บริษัทสามารถกลับมาเปิดให้บริการสาขาขนาดใหญ่ที่มีอยู่ทั้งหมด 10 แห่ง และสาขา Dohome To Go 8 สาขา อีกทั้งยอดขายในสาขาต่างๆ ฟื้นตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ช่วงมีการล็อกดาวน์ไม่สามารถเปิดให้บริการหน้าร้านได้ แต่บริษัทก็ยังขายสินค้าผ่านพนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales) ได้เพิ่มขึ้นจากปกติที่มีสัดส่วนราว 48-49% ของยอดขายรวม โดยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่บริษัทต้องปิดหน้าร้านเกือบทั้งหมด ทำให้เห็นยอดขาย Telesales เติบโตค่อนข้างมาก ซึ่งบริษัทได้นำพนักงานหน้าร้านที่มีความเข้าใจสินค้าดีอยู่แล้วมาช่วยเพิ่มศักยภาพการจำหน่ายสินค้าช่องทางนี้ด้วย
สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง โดยการเข้าซื้อสินค้าที่หหน้าร้านกลับสู่ภาวะปกติแล้ว ขณะเดียวกันบริษัทได้มีการเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่จังหวัดสุรินทร์ในไตรมาส 3/63 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและมีผู้เข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่ช่วงที่เหลือของปีนี้บริษัทเตรียมเปิดสาขาขนาดใหญ่ที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด 1 แห่ง และเปิดสาขา Dohome To Go อีก 7 สาขา
ส่วนสาขาขนาดใหญ่ในเทศบาลนครแหลมฉบัง บริษัทได้ชะลอการเปิดไปเป็นช่วงไตรมาส 1/64 จากเดิมมีกำหนดเปิดในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะที่การขยายสาขา Dohome To Go ที่วางแผนไว้สำหรับปี 64 บริษัทจะทำการปรับแผนใหม่ และพื้นที่ในการขยายสาขาใหม่ทั้งหมด เพื่อที่จะให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม การทำกำไรของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกปรับตัวลดลงมาบ้าง เนื่องจากสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าที่เปลี่ยนแปลงไป รวมไปถึงสินค้าแบรนด์ของบริษัทที่จำหน่ายได้ลดลง และบริษัทไม่ได้มีการปลดพนักงานในช่วงของการล็อกดาวน์ ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายยังคงที่ในขณะที่ยอดขายปรับตัวลดลง แต่ในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว เนื่องจากสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูง และสินค้าแบรนด์ของบริษัทจะกลับมาจำหน่ายได้