CPF มองธุรกิจอาหารโต พร้อมชูนวัตกรรมใหม่"หมูไขมันดี"ตอบโจทย์ผู้บริโภค

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 23, 2020 18:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เปิดเผยในงานสัมมนา "BATTLE STRATEGY แผนฝ่าวิกฤต พิชิตสงคราม EPISODE II : DON'T WASTE A GOOD CRISIS พลิกชีวิตด้วยวิกฤตการณ์" ในหัวข้อ ครัวไทยครัวโลกและการยกระดับคุณภาพชีวิต ว่า ประเทศไทยถือว่าอยู่ในภูมิศาสตร์ที่ดี โดยจุดที่เป็นเอกลักษณ์ของการเป็นครัวโลกของไทย คือ ความสดของอาหาร เมนูอาหารไทยที่โด่งดัง รวมถึงเรื่องของความปลอดภัยของอาหาร (food safety) ที่ได้รับปัจจัยบวกจากการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่ทำได้ดีมาก ทำให้อาหารไทยเป็นที่ยอมรับมากขึ้น เห็นได้จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้การมีมาตรฐานที่ดี ระบบซัพพลายเชน (Supply chain) ก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งที่ผ่านมา CPF ก็ทำได้ค่อนข้างดี เห็นได้จากบริษัทฯ ไม่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เลย อีกทั้งยอดขายยังเติบโตมากขึ้น รวมถึงการส่งออกก็เติบโตด้วย

ขณะที่ในวันที่ 7 ต.ค.นี้ CPF ก็เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ หมูไขมันดี หรือ หมูชีวา เป็นเนื้อหมูนวัตกรรมที่มีโอเมก้า 3 มากกว่าเนื้อหมูปกติ 2.5 เท่า จากการเลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติที่อุดมด้วยโอเมก้า อย่าง Flax Seed, สาหร่ายทะเลธรรมชาติ และน้ำมันปลาทะเลลึก ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และยังปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ตลอดการเลี้ยงดู โดยจะอยู่ภายใต้แบรนด์ ยู-ฟาร์ม (U-Farm) เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่มีความกังวลกับการทานไขมันในหมู

อย่างไรก็ตามมองว่าธุรกิจอาหารยังคงเติบโตได้ในอนาคต ซึ่งนอกจากเรื่องโลเกชั่นแล้ว การจัดการระบบน้ำ จะช่วยยกระดับต้นทุนของไทยให้ดีขึ้นด้วย โดยปัจจุบัน CPF ก็ได้ว่าจ้างบริษัทในอิสราเอล ทำระบบน้ำหยดในโครงการปลูกข้าวโพด ซึ่ง CPF เป็นผู้ลงทุนเอง คาดว่าจะช่วยเพิ่มผลผลิตจาก 700 กิโลกรัม/ไร่ เป็น 2,000 กิโลกรัม/ไร่ และน่าจะดำเนินการแล้วเสร็จได้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า

นายประสิทธิ์ กล่าวว่า สำหรับผู้ประกอบการรายกลางและรายย่อย ที่จะเข้ามาผลักดันให้ธุรกิจอาหาร ครัวไทยเป็นครัวของโลกได้นั้น มองว่าต้องมีความรวดเร็ว, การรักษาสัญญา (commitment) และการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการกระจายตลาดไปในประเทศอื่นๆ การจายประเภทผลิตภัณฑ์ การยกระดับผลิตภัณฑ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ธุรกิจมีความมั่นคง และเติบโตมากขึ้น

ขณะเดียวกันการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตไปข้างหน้า สิ่งสำคัญที่สุด คือเรื่องของ Mindset หรือความคิดว่าต้องเติบโต, การเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ (Learning Thinking) เพื่อพัฒนาอย่างต่อเนื่อง, การมีนวัตกรรมใหม่ๆ (Innovation), กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง และสุดท้าย positive thinking


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ