AGE เล็งขยายลงทุนพลังงาน-โลจิสติกส์-ถ่านหินในปี 64,คาดปีนี้ยอดขายทะลุเป้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 10, 2020 11:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอเชีย กรีน เอนเนอจี (AGE) เปิดเผยว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในโครงการขายไอน้ำ และโครงการลงทุนโรงไฟฟ้าเพิ่มเติมหลายโครงการ ซึ่งคาดว่าจะลงทุนในปี 64 และมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่งมีกำไรสะสมสูงถึง 700 ล้านบาทพร้อมสำหรับการลงทุน

ก่อนหน้านี้ บริษัทได้ลงทุนในธุรกิจพลังงานผ่านบริษัทร่วมทุนภายใต้บริษัท แอท เอนเนอจี โซลูชั่น จำกัด โดยได้ทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาส 3/63 จากโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ ขนาด 5 เมกะวัตต์ และในปี 64 จะรับรู้ฯ จากโครงการการขายไอน้ำให้กับลูกค้าขนาดเตา Boiler 16 ตัน

นอกจากนี้ บริษัทฯยังเดินหน้าขยายธุรกิจโลจิสติกส์ต่อเนื่อง โดยมีแผนการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายท่าเรือที่ 4 คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในช่วงปี 64 ถือเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของบริษัทฯที่มีการให้บริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจร

นายพนม กล่าวว่า บริษัทมีบริการโลจิสติกส์ ที่ครบวงจร ทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น อีกทั้งถ่านหินยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่มีต้นทุนต่ำ เมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงประเภทอื่น โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ถ่านหินมากที่สุดคือ กลุ่มผู้ประกอบการผลิตปูนซีเมนต์ โรงไฟฟ้า กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

บริษัทจะยังคงเดินหน้าลงทุนธุรกิจถ่านหิน โดยการมุ่งเน้นการขยายตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศต่อเนื่อง พร้อมทั้งได้วางกลยุทธ์บุกตลาดกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทมียอดคำสั่งซื้อถ่านหินในมือ (Backlog) จำนวน 1 ล้านตัน ซึ่งจะทยอยส่งมอบจนถึงปี 64

สำหรับภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 63 นั้น ความต้องการใช้ถ่านหินในภาคอุตสาหกรรมในประเทศ เริ่มมีสัญญาณฟื้นตัวจากไตรมาส 2/63 ที่ผ่านมาอย่างชัดเจน เนื่องจากการกลับมาดำเนินธุรกิจอย่างปกติ ดังนั่น ส่งผลให้ทั้งปี 63 บริษัทคาดว่าปริมาณยอดขายถ่านหินจะสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ระดับ 3.5 ล้านตัน

นายพนม ชี้แจงผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 63 สิ้นสุดวันที่ 30 ก.ย.63 ว่า บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ 5,487.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.9% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 5,239 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 143.3 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 39.6%

ส่วนไตรมาส 3/63 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 2,099 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็นรายได้จากการขายถ่านหินที่ 2,019.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และกำไรสุทธิ อยู่ที่ 91.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.5%

ทั้งนี้ เป็นผลมาจากปริมาณการขายถ่านหินที่เพิ่มขึ้น โดยมียอดขายถ่านหินทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จำนวน 1.17 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 71.2% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ ณ ผลประกอบการงวด 9 เดือนแรกปี 63 บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายถ่านหินรวมทั้งสิ้นที่ระดับ 2.98 ล้านตัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ