(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: หุ้นอสังหาฯหนุนฮั่งเส็งปิดพุ่ง 520.96 จุด

          ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในวันนี้ (25 ต.ค.) อันเป็นผลมาจากหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับเพิ่มอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากมีความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ซึ่งช่วยชดเชยหุ้นเอชแชร์ที่ปรับลดลง จากการที่ตลาดคาดว่าจีนจะเพิ่มมาตรการควบคุมทางการเงินอีก
          หุ้นไชน่า โมบาย เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ช่วยหนุนตลาด เนื่องจากยังสามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนได้อย่างต่อเนื่อง หลังมีการเปิดเผยผลประกอบการณ์อันแข็งแกร่งในรอบ 9 เดือนแรก ส่งผลให้บริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งปรับเพิ่มราคาหุ้นของบริษัทไชน่า โมบาย
          หุ้นไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงค์ ก็หนุนดัชนีฮั่งเส็งเช่นกัน เนื่องจากหุ้นดังกล่าวทะยานขึ้นถึง 6% 
          แนวโน้มที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีมากขึ้น เมื่อมีรายงานว่ายอดขายบ้านมือสองในสหรัฐและผลประกอบการณ์ของบริษัท เมอร์ริล ลินช์ ลดลงอย่างน่าใจหาย และเมื่อเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารในฮ่องกงก็จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ตาม ส่งผลให้ยอดขายบ้านกระเตื้องขึ้น
          ในขณะเดียวกัน จีนประกาศว่าเศรษฐกิจของประเทศขยายตัว 11.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสสามรวมถึงในช่วง 9 เดือนแรกของปีด้วย หลังจากที่ขยายตัว 11.9% ในไตรมาสสอง
          ด้านดัชนีราคาผู้บริโภคขยายตัว 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนก.ย. ในขณะที่ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 18.9% และการลงทุนในสินทรัพย์คงที่ในเมืองใหญ่เพิ่ม 24.8%          
          เจ้าหน้าที่จากจีนแผ่นดินใหญ่กล่าวว่า พวกเขายังวิตกกังวลว่าเศรษฐกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็วอาจทำให้ต้องมีการใช้มาตรการลดความร้อนแรงทางเศรษฐกิจมากขึ้น
          สำนักข่าวซินหัวไฟแนนซ์รายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งปิดบวก 520.96 จุด หรือ 1.78% ปิดที่ 29,854.49 จุด หลังเคลื่อนไหวในกรอบ 29,314.22 และ 29,943.39 จุด
          "นักลงทุนปลีกตัวจากหุ้นบริษัทจีนและเข้าซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะในช่วงบ่าย เนื่องจากคาดว่าธนาคารในฮ่องกงจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยถ้าเฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยจริงในสัปดาห์หน้า" แมทธิว กว็อก หัวหน้าฝ่ายวิจัยจากแทนริช ซีเคียวริตี้ส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เฟดจะไม่หยุดปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังอยู่ในภาวะถดถอย
          เฟดจะจัดการประชุมนโยบายระหว่างวันที่ 30-31 ต.ค. เพื่อตัดสินว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยเมื่อเดือนที่แล้วเฟดก็เพิ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยไป 0.5% อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลในตลาดสินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์          
          นายกว็อกกล่าวว่า ยอดขายบ้านในฮ่องกงยังคงได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้นักลงทุนสนใจซื้อหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์
          "อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มอย่างแข็งแกร่งในวันนี้จะส่งผลให้เกิดการเทขายทำกำไรในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน" เขากล่าว "จะมีการปรับฐานลงก่อนที่จะปรับเพิ่มขึ้นอีกครั้ง"
          เขากล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นบริษัทจีนบางกลุ่มได้รับผลกระทบจากการที่ตลาดหุ้นจีนดิ่งลงอย่างหนักหน่วง รวมถึงความวิตกกังวลที่ว่าจีนอาจประกาศเพิ่มมาตรการควบคุมการเงินอีกครั้ง  
          "หุ้นเอชแชร์บางตัวได้รับผลกระทบจากความวิตกกังวลที่ว่าจีนอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และจากการเทขายทำกำไรหลังหุ้นปรับเพิ่มอย่างแข็งแกร่ง"
          หุ้นไชน่า โมบาย เพิ่ม 1.87%, หุ้น HSBC ขยับขึ้น 0.14%, หุ้นฮ่องกง เอ็กซ์เชนจ์ แอนด์ เคลียริ่ง ขยับขึ้น 0.08% และ หุ้นฮัชชิสัน วัมเปา ขยับขึ้น 0.18%  
          หุ้นเฉินกงเพิ่ม 7.79%, หุ้นเฮนเดอร์สันแลนด์ เพิ่ม 5.19%, หุ้นซันฮุงไก พรอพเพอร์ตี้ เพิ่ม 8.44% และ หุ้นซิโนแลนด์ เพิ่ม 10.61%    
          หุ้นแบงค์ ออฟ ไชน่า ขยับขึ้น 2.44%, หุ้นไชน่า ไลฟ์ ขยับลง 0.49% และ หุ้นแบงค์ ออฟ คอมมิวนิเคชั่นส์ ขยับลง 0.62%
          หุ้นปิโตรไชน่าขยับลง 1.44%, หุ้นซิโนเปคขยับลง 1.36% และ หุ้น CNOOC ขยับขึ้น 1.37%
          หุ้นไชน่า อีสเทิร์น แอร์ไลน์ส เพิ่ม 2.41% หลังมีข่าวว่าสายการบินมีผู้โดยสารถึง 3.39 ล้านคนในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.3% จากปีที่แล้ว ส่วนหุ้นไชน่า เซาท์เธิร์น แอร์ไลน์ส ขยับขึ้น 0.17% หลังสายการบินประกาศผลกำไรสุทธิในไตรมาสสามที่เพิ่มขึ้นถึง 49% เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากมีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก