ดัชนีคอมโพสิต ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ (19 พ.ย.) โดยดัชนีเคลื่อนไหวปิดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,900 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติได้เทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี และหุ้นในกลุ่มธนาคาร ท่ามกลางความหวั่นวิตกต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยในช่วงเช้าตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดขยับขึ้นหลังได้รับอานิสงส์จากการปิดดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ดัชนีกลับเคลื่อนไหวในแดนลบในช่วงเที่ยงวันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเริ่มวิตกต่อตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจของสหรัฐ และจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้งในเร็วๆนี้ สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตปิดร่วงลง 32.73 จุด หรือ 1.7% แตะที่ 1,893.47 จุด หลังจากเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1,892.87 - 1,936.50 จุด ซึ่งนับเป็นระดับปิดต่ำสุดที่เคยทำไว้เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ระดับ 1,838.6 จุด ลี วู-ฮุน นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์เกียวโบรายงานว่า "ตลาดร่วงลงต่ำกว่าระดับ 1,900 จุด เนื่องจากนักลงทุนกำลังจะได้รับข่าวร้ายจากตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐอีกครั้ง" โดยนักลงทุนในตลาดหุ้นนิวยอร์กจะจับตาตัวเลขคาดการณ์ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ประจำเดือนพ.ย.จากสมาคมผู้ก่อสร้างบ้านแห่งชาติในคืนนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากโพลล์สำรวจของธอมสัน/ไอเอฟอาร์คาดการณ์ว่า ดัชนีตลาดอสังหาริมทรัพย์จะย่ำฐานทรงตัวที่ 18 ซึ่งคงที่จากระดับในเดือนต.ค.หลังจากที่ปรับตัวลดลง 8 เดือนติดต่อกัน ยอง-จุน นักวิเคราะห์จากเอสเค ซีเคียวริตี้กล่าวว่า "บรรยากากศการซื้อขายในวันนี้ค่อนข้างซบเซา และนักลงทุนยังเข้าซื้อขายด้วยท่าทีระมัดระวัง ซึ่งเขาคาดว่าตลาดน่าจะมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ภายใต้แรงกดดันต่อไปอีกระยะหนึ่ง" บรรยากาศการซื้อขายในวันนี้เบาบางผิดปกติ โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 286 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่า 5 ล้านล้านวอน หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังวิตกต่อยอดขายในสหรัฐ โดยหุ้นซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ปิดร่วงลง 2.9% และหุ้นแอลจี อิเล็กทรอนิกส์ปิดลบ 5.4% นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารปิดดิ่งลงอย่างหนัก โดยหุ้นธนาคารกุ๊กมินปิดลบ 3.4% และหุ้นชินฮาน ไฟแนนเชียลปิดลดลง 3%