สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยประจำวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวมทั้งวันอยู่ที่ 63,626 ล้านบาท ด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขาย สูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ซื้อสุทธิ 15,145 ล้านบาท 2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,019 ล้านบาท ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ 2,002 ล้านบาท Yield พันธบัตรอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.48% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเมื่อวาน +0.07%
ภาพรวมของตลาดในวันนี้
Yield Curve ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าประมาณ 3-9 bps. หลังจากผลการประชุม
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.50% สู่ระดับ 0.75-1.00%
ตามที่ตลาดคาดการณ์ และส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% ในการประชุม 2 ครั้งข้างหน้า
นอกจากนี้ได้เปิดเผยแผนทยอยปรับลดขนาดงบดุล (Quantitative Tightening : QT)
ที่จะเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมิ.ย. ซึ่งประกอบด้วยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและตราสารหนี้ที่มี
สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) โดยขณะนี้มีมูลค่ารวม 8.9 ล้านล้านดอลลาร์
ด้านปัจจัยในประเทศ กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือนเม.ย. 65
อยู่ที่ระดับ 105.15 เพิ่มขึ้น 4.65%(YoY) และเพิ่มขึ้น 0.34%(MoM) ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อ
4 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย. 65) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.71%สำหรับกระแสเงินลงทุนของ
นักลงทุนต่างชาติวันนี้ NET OUTFLOW 2,033 ล้านบาท โดยเกิดจาก NET SELL 2,002 ล้านบาท
และมีตราสารหนี้ที่ถือครองโดยนักลงทุนต่างชาติหมดอายุ (Expired) 31 ล้านบาท ด้าน
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) มี NET SELL ของนักลงทุนต่างชาติ 180 ล้านบาท
ทั้งนี้ตลาดติดตามรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์สหรัฐฯ ในคืนนี้ และ
ผลการประชุมของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในวันพรุ่งนี้