CWT เล็งต่อยอดเข้าลงทุนบริการไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนป้อนเหมืองคริปโทฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 18, 2022 12:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวีระพล ไชยธีรัตต์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ กรุ๊ป (CWT) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 65 บริษัทพร้อมเดินหน้าเข้าสู่โลกดิจิทัลเต็มที่ โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทอนุมัติกรอบวงเงินให้เข้าลงทุนซื้อเครื่องขุด Cryptocurrency จากคู่ค้าที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการสร้างเครื่องขุดและงานซ่อมบำรุงรักษาได้แบบครบวงจรมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 150 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินทุนจากการดำเนินงานของบริษัทฯ และพร้อมวางแผนจัดซื้อเครื่องขุดฯ ชุดแรกเพื่อทำ "Bitcoin Green Mining" จำนวน 100 เครื่อง คาดแล้วเสร็จภายในไตรมาส 2 นี้

"จากสถานการณ์ราคาเหรียญในปัจจุบันที่มีการปรับตัวลดลงอย่างมากนั้น ทางบริษัทเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสในการลงทุนเนื่องจากในสถานการณ์เช่นนี้ Demand ลดลง ทำให้เครื่องขุดจะลดราคาลงตามด้วย อีกทั้งเราสามารถเลือกจังหวะในการเข้าลงทุนเหมืองขุด Bitcoin ได้ในจังหวะที่เหมาะสม ทั้งนี้ CWT เอง ใช้กลยุทธ์ เปลี่ยนกำลังไฟฟ้าเหลือใช้ที่เก็บไม่ได้ ให้เป็นสินทรัพย์ดิจิตอลที่เป็นสกุลเงินที่เก็บรักษาได้และมีค่าในอนาคต ด้วยต้นทุนค่าไฟฟ้าที่ CWT มีถูกกว่าราคาจากการไฟฟ้าหลายสิบเปอร์เซนต์"

นอกจาก แผนการลงทุน Bitcoin Green Mining แล้ว บริษัทฯ ยังเล็งเห็นโอกาสจากการเสนอขายบริการไฟฟ้าจากพลังงานจากธรรมชาติและไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดไม่น้อยกว่า 200 kWh จากกลุ่ม cwtGM สำหรับผู้ที่สนใจสร้างเหมืองขุด Cryptocurrency พร้อมงานบริการแบบครบวงจร นำโดยทีมผู้เชี่ยวชาญดูแล Operation & Maintenance จาก DreamerX ซึ่งเราเชื่อมั่นว่าจะเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานที่มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และสามารถสร้าง New S Curve ให้กับธุรกิจ และสร้างผลตอบแทนในระยะยาวที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/65 บริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 481.67 ล้านบาท ลดลง 1.83% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้การขายและบริการรวมจำนวน 490.66 ล้านบาท และมีผลกำไรตามการแบ่งปันกำไรส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 79.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.98 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 43.20% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลกำไร 55.49 ล้านบาท

"ในไตรมาส 1 กลุ่มบริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการจำนวน 481.67 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการขายหนังผืนสำหรับเบาะรถยนต์ตามจำนวนผลิตรถตามรุ่นที่ได้รับ รายได้จากการขายไฟฟ้าเป็นไปตามจำนวนเมกะวัตต์ที่บริษัทได้รับรวม 14 เมกะวัตต์ สำหรับรายได้จากการขายเรือและรถโดยสารขนาดเล็กเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และบริษัทมีรายได้อื่นจำนวน 9.06 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสำหรับไตรมาสนี้จำนวน 1.53 ล้านบาท และได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วมจำนวน 1.97 ล้านบาท"

ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ มีต้นทุนจากการขายและให้บริการลดลง ซึ่งเกิดจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต และการบริหารจัดการงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบกับผลประกอบการดีขึ้น ส่งผลทำให้มีผลกำไรเพิ่มขึ้นถึง 43.20%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ