HILITE: KJL ปิดเทรดวันแรกที่ 17.80 บาท สูงกว่า IPO 31.85%

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 22, 2022 17:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

KJL ปิดเทรดวันแรกที่ 17.80 บาท เพิ่มขึ้น 4.30 บาท (+31.85%) จากราคา IPO 13.50 บาท มูลค่าซื้อขายราว 3,722.95 ล้านบาท จากราคาเปิด 17.20 บาท ราคาสูงสุด 19.10 บาท ราคาต่ำสุด 16.90 บาท

บล.ทิสโก้ ประมาณการเบื้องต้น บมจ.กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค (KJL) มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2566 ที่ 20 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน ที่ P/E 18 เท่า) โดยมอง KJL ยังสามารถสร้างการเติบโตของผลการดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง

โดยเฉพาะในปีนี้ รับการเร่งตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้าง จากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ทั้งงานก่อสร้างอาคารใหญ่ และโครงการก่อสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะโครงการที่เกี่ยวข้องกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมถึงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ที่มีการเร่งเปิดตัวโครงการหลังสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 คลี่คลาย

อีกทั้งยังถูกหนุนเพิ่มเติมจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้นตามผู้ใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สำหรับความเสี่ยงที่ต้องระวังของ KJL คือความผันผวนของราคาวัตถุดิบหลักอย่างเหล็กแผ่นซึ่งอาจกดดันอัตรากำไร

นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KJL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ 3-5 ปี เติบโตต่อเนื่อง 10-15% ต่อปี หลังจากขยายกำลังการผลิตต่อเนื่อง 15-20% ต่อปี เพื่อรองรับคำสั่งซื้อของลูกค้าที่จะเพิ่มขึ้น โดยเงินลงทุนมาจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 80 ล้านบาท ซึ่งเป็นปัจจัยที่หนุนให้บริษัทมีความสามารถในการผลิตตู้ไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆให้กับลูกค้า ซึ่งจะส่งผลให้ยอดขายและผลการดำเนินงานเติบโตขึ้น

บริษัทมีเป้าหมายมุ่งสู่การเป็นผู้นำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้ไฟฟ้าทุกระดับ นับตั้งแต่ครัวเรือนจนถึงอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ให้สอดรับกับการใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และพลังงานทดแทนในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้สินค้าของบริษัท เป็นที่ต้องการมากขึ้น และเติบโตต่อเนื่องในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะอุตสาหกรรม EV ที่จะมีการเปลี่ยนผ่านมาใช้มากขึ้นในอนาคต ซึ่งเป็นโอกาสให้บริษัทได้รับประโยชน์จากการสั่งซื้อตู้ไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆมากขึ้น

"เทรนด์เริ่มเปลี่ยนมาที่พลังงานสะอาดมากขึ้น โดยเฉพาะพลังงานที่เกี่ยวข้องกับไฟฟ้า ทำให้ธุรกิจเราได้รับประโยชน์จากตลาดนี้มากในอนาคต แม้ว่า KJL จะไม่ได้มี Backlog เยอะ แต่พื้นฐานเราเน้นผลิต make to order ให้ลูกค้า ลูกค้าเข้ามาหาเรา เราสามารถผลิตสินค้า ให้ลูกค้าเอาไปใช้ได้เลย ซึ่งแบบนี้ทำให้เรามียอดขายที่แน่นอน ไม่มีความผันผวน" นายเกษมสันต์ กล่าว

ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 66 บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินจะทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา (All time high) ในแง่รายได้และกำไร จากการเติบโตในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมากำไรทำและรายได้เท่ากับทั้งปี 64 แล้ว และในช่วงไตรมาส 4/65 เป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ ทำให้ยังเห็นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

"คาดว่าผลงานในปี 66 จะทำ All time high ได้ต่อเนื่องจากปีนี้ หลังมีกำลังการผลิตใหม่เพิ่มขึ้นมา จากโรงงานแห่งใหม่ที่จะเสร็จในปลายปีนี้ ทำให้สามารถรองรับการผลิตสินค้าให้กับลูกค้าได้เพิ่มขึ้น"นายเกษมสันต์ กล่าว

สำหรับการทำการตลาดของบริษัทได้เน้นสร้างการเติบโตตลาดในประเทศเป็นหลัก และขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว เมียนมา และอยู่ระหว่างเจรจาประเทศอื่นๆเพิ่มเติม เพื่อนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหลักตู้ไฟสวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ อยู่ที่ประมาณ 60-70% ธุรกิจรับจ้างผลิตตู้ไฟรางไฟ 20-30% และธุรกิจการติดตั้งอุปกรณ์ 1-2%

อีกทั้งบริษัทได้มีการขยายไลน์การผลิตงานโลหะ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมและยังเป็นธุรกิจที่มีอัตรากำไรค่อนข้างสูง ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 5-10% พร้อมตั้งเป้าอัตรากำไรสุทธิเติบโตไม่ต่ำกว่าสองหลัก


แท็ก บล.ทิสโก้  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ