TTA ประคองกำไร Q1/66 ราว 215 ลบ.ฝ่าคลื่นลมค่าระวางเรือ-ยอดขายปุ๋ยหด

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday May 16, 2023 13:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ (TTA) รายงานผลกำไรสุทธิในไตรมาส 1/66 ราว 215 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาส 1/65 ที่มีกำไรราว 980 ล้านบาท แม้จะประสบกับภาวะอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าลดลงและรายได้จากการขายปุ๋ยของกลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตรลดลง แต่บริษัทยังสามารถทำกำไรได้

สัดส่วนรายได้ในไตรมาส 1/66 มาจากกลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ 44% กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง 31% กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร 9% กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม 10% และกลุ่มการลงทุนอื่น 6% ของรายได้รวมทั้งหมด และมีกำไรขั้นต้น 1,093.9 ล้านบาท

ณ วันที่ 31 มี.ค.66 TTA มีสินทรัพย์รวมเท่ากับ 43,466.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,873.5 ล้านบาท หรือ 5% จากสิ้นปี 65 สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด สินทรัพย์ทางการเงินหมุนเวียนอื่น สินทรัพย์ดิจิทัล และที่ดิน อาคารและอุปกรณ์

TTA ยังคงมีฐานะการเงินแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยเงินสดภายใต้การบริหาร 11.9 พันล้านบาท นอกจากนี้ โครงสร้างเงินทุนยังคงแข็งแกร่ง เห็นได้จากอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ในระดับต่ำที่ 0.44 เท่า ณ สิ้นไตรมาส

นายเฉลิมชัย มหากิจศิริ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TTA กล่าวว่า แม้ว่าค่าระวางเรือปรับตัวลงจากปัจจัยตามฤดูกาลในไตรมาส 1/66 แต่ โทรีเซน ชิปปิ้ง มีอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าเฉลี่ย 13,718 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ซึ่งสูงกว่าอัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์สุทธิที่ 9,662 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ราว 42% และยังคงเชื่อว่าอุตสาหกรรมสินค้าแห้งเทกองจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นในไตรมาสที่สอง

ขณะที่ บมจ.เมอร์เมด มาริไทม์ ยังคงให้ความสำคัญกับการขยายบริการวิศวกรรมนอกชายฝั่งในพื้นที่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ และก็ประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย เช่น การได้ทำสัญญาโครงการรื้อถอนหลุมผลิตปิโตรเลียม สัญญาโครงการปิดและรื้อถอนหลุมขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และสัญญาโครงการรื้อถอนสิ่งก่อสร้างในกิจกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ในแถบอ่าวไทยและทะเลเหนือ เราคาดว่าในปีนี้ภาคธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนในการสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่งมากขึ้น โดยเฉพาะในแถบตะวันออกกลาง ซึ่งก่อนหน้านี้ Rystad Energy ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยอิสระด้านพลังงานและมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ออสโล ได้รายงานว่า การใช้จ่ายของแถบตะวันออกกลางในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซนอกชายฝั่ง (O&G) จะเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในอีก 3 ปีข้างหน้า จาก 33 พันล้านดอลลาร์ในปี 66 เป็น 41 พันล้านดอลลาร์ในปี 68

สำหรับในไตรมาสที่ 1/66 PMTA ประสบปัญหายอดขายปุ๋ยในประเทศลดลง เนื่องจากเป็นช่วงนอกฤดูกาลเพาะปลูกและเป็นช่วงที่ราคาปุ๋ยปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าอุปสงค์ปุ๋ยในประเทศเวียดนามจะฟื้นตัวในไตรมาส 2/66 หากสภาพการเกษตรในปัจจุบันยังคงเหมือนเดิม ทั้งนี้ PMTA วางกลยุทธ์ที่จะแนะนำผลิตภัณฑ์พิเศษและสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าเป้าหมาย เพื่อขยายตลาดส่งออกในประเทศแถบแอฟริกาและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผลการดำเนินงานของแต่ละธุรกิจ

  • กลุ่มธุรกิจขนส่งทางเรือ : ในไตรมาส 1/66 ดัชนีซุปราแมกซ์ (BSI) มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 925 จุด เนื่องจากแรงกดดันจากภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงแนวโน้มเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในจีน รวมถึงผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน และการบรรเทาความแออัดของท่าเรือด้วย โดยอัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์ทำสถิติสูงสุดที่ 14,703 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน ในช่วงปลายเดือน มี.ค. และมีค่าเฉลี่ย 10,171 ดอลลาร์สหรัฐต่อวันในไตรมาส 1/66

สำหรับแนวโน้มปี 66 มีความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน จากบทวิเคราะห์ของ Clarksons คาดการณ์การเติบโตของการค้าสินค้าแห้งเทกองที่ 1.8% ในหน่วยตัน หรือ 2.5% ในหน่วยตัน-ไมล์ ขณะที่การขยายกองเรือจะชะลอตัวลงเหลือ 2.4% ในหน่วยเดทเวทตัน (DWT)

ในไตรมาส 1/66 รายได้ค่าระวางของโทรีเซน ชิปปิ้ง อยู่ที่ 2,077.3 ล้านบาท ลดลง 34% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุมาจากค่าระวางเรือในตลาดลดลงจากที่เคยสูงเป็นพิเศษในปี 65 และลดลง 31% จากไตรมาสก่อน จากปัจจัยตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม โทรีเซน ชิปปิ้ง มีอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าเฉลี่ย 13,718 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน สูงกว่าอัตราค่าระวางเรือซุปราแมกซ์สุทธิ 42% นอกจากนี้ อัตราการใช้ประโยชน์เรือสูงอย่างต่อเนื่องที่ 100% และอัตราค่าระวางเรือเทียบเท่าสูงสุดอยู่ที่ 27,250 ดอลลาร์สหรัฐต่อวัน

โทรีเซน ชิปปิ้ง รายงานกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 421.3 ล้านบาท ลดลงในไตรมาส 1/66 โดย ณ สิ้นไตรมาส มีกองเรือ 24 ลำ (เรือซุปราแมกซ์ 22 ลำ และเรืออัลตราแมกซ์ 2 ลำ) ระวางบรรทุกเฉลี่ย 55,913 เดทเวทตัน อายุเฉลี่ย 15 ปี

  • กลุ่มธุรกิจบริการนอกชายฝั่ง : เมอร์เมดฯ มีรายได้ 1,479.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นของงานวิศวกรรมใต้ทะเล (subsea-IRM) และงานวางสายเคเบิลใต้ทะเล ในขณะที่อัตราการใช้ประโยชน์ของเรือวิศวกรรมใต้ทะเลเพิ่มขึ้นจาก 46% เป็น 97% กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 320% และ EBITDA อยู่ที่ 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 131% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

โดยสรุป เมอร์เมดฯ มีผลขาดทุนสุทธิ 166.1 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 96.1 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66 ปรับตัวดีขึ้น 37% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีมูลค่าสัญญาให้บริการรอส่งมอบที่แข็งแกร่ง 320 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นไตรมาส

-กลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์เพื่อการเกษตร : ในช่วงนอกฤดูกาลเพาะปลูกในไตรมาส 1/66 รายได้ของ บมจ.พีเอ็ม โทรีเซน เอเชีย โฮลดิ้งส์ (PMTA) อยู่ที่ 411.9 ล้านบาท ลดลง 43% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้จากการขายปุ๋ย และผลิตภัณฑ์เคมีเพื่อการเกษตรอื่นๆ ลดลง โดยปริมาณขายปุ๋ยรวมอยู่ที่ 14.1 พันตัน ลดลง 47% จากการชะลอคำสั่งซื้อของผู้ค้าส่งและผู้ค้าปลีกในเวียดนาม อย่างไรก็ตาม คาดว่าความต้องการปุ๋ยจะปรับตัวดึขึ้น จากการกลับมาเพิ่มสินค้าคงคลังสำหรับฤดูกาลเพาะปลูกในไตรมาส 2

ในส่วนของปริมาณส่งออกปุ๋ยเพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เป็น 3.4 พันตัน เนื่องจากปริมาณการส่งออกปุ๋ยไปยังประเทศแอฟริกามีการขยายตัว

รายได้จากการให้บริการจัดการพื้นที่โรงงานเพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสก่อน เป็น 28.7 ล้านบาท เนื่องจากการขยายอาคารคลังสินค้าขนาด 10,000 ตารางเมตร และความต้องการเพิ่มสูงขึ้น

โดยสรุป PMTA รายงานผลขาดทุนสุทธิที่ 38.8 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิส่วนที่เป็นของ TTA จำนวน 26.6 ล้านบาท ในไตรมาส 1/66

  • กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม (Food & Beverage) : ณ วันที่ 31 มี.ค.66 พิซซ่า ฮัท มีสาขาทั้งหมด 191 สาขาทั่วประเทศ สาขาทั้งหมดที่เปิดใหม่เน้นหัวเมืองใหญ่ ในขณะที่ ทาโก้ เบลล์ เฟรนไชส์อาหารเม็กซิกันจากสหรัฐ มีสาขาทั้งหมด 14 สาขาทั่วประเทศ
  • กลุ่มการลงทุนอื่น (Investment) มุ่งเน้นธุรกิจการบริหารทรัพยากรน้ำและโลจิสติกส์ : บริษัท เอเชีย อินฟราสตรักเชอร์ แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด (AIM) ซึ่ง TTA ถือหุ้น 89.40๔ เป็นผู้ออกแบบ ก่อสร้าง และให้บริการครบวงจรทางด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ AIM ได้รับสัมปทานจำหน่ายน้ำประปาในหลวงพระบาง สปป.ลาว ผ่านบริษัทย่อยที่ AIM ถือหุ้นอยู่ทั้ง100%

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ