ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือนเมื่อคืนนี้ (5 พ.ค.) เนื่องจากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และธนาคาร หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยจะทุเลาลงในเร็วนี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่ดีเกินคาดของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดพุ่ง 93.72 จุด แตะที่ 4,336.94 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 4,243.22-4,375.35 จุด
เดวิด โจนส์ หัวหน้านักวิเคราะห์จาก IG Index กล่าวว่า ตลาดหุ้นลอนดอนได้รับแรงหนุนหลังจากภาคเอกชนของอังกฤษเปิดเผยว่าดัชนี CLSA ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดกำลังซื้อของผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อของจีนประจำเดือนเม.ย.พุ่งขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 9 เดือน และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางอังกฤษจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% ในการประชุมนโยบายวันพฤหัสบดีนี้
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นคาซัคมิส ซึ่งเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของคาซัคสถาน พุ่งขึ้น 9.6% หุ้นเวแดนตา ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่สุดของอินเดีย ปิดบวก 12% และหุ้นอันโตฟากัสต้า ผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่ของชิลี ปิดพุ่ง 4.4%
ดัชนีหุ้นแบงค์ FTSE 350 Banks Index พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 7.7% โดยหุ้นธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ปิดพุ่ง 8.5% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นธนาคารรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดบวก 9.1% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 6.8% หุ้นธนาคาร HSBC ปิดพุ่ง 7.4% และหุ้นลอยด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป ปิดบวก 10%
นักลงทุนจับตาดูผลการทดสอบความสามารถในการรักษาฐานะทางการเงิน (stress test) ของ 19 ธนาคารยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงซิตี้กรุ๊ป, อเมริกัน เอ็กซ์เพรส, แบงก์ ออฟ อเมริกา, โกลด์แมน แซคส์, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, มอร์แกน สแตนลีย์ และธนาคารเวลล์ส ฟาร์โก อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าธนาคารราว 10 แห่งจาก 19 แห่งที่ผ่านการทดสอบ stress test อาจจำเป็นต้องเพิ่มเงินทุนมากขึ้น