ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 พ.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเหมืองแร่ หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลอังกฤษเริ่มเจรจากับนักลงทุนเกี่ยวกับการขายหุ้นในธนาคารที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อที่สดใสของอังกฤษและดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีที่พุ่งขึ้นเกินคาด
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 35.80 จุด แตะที่ 4,482.25 จุด หลังจาก เคลื่อนตัวในช่วง 4,445.48-4,512.70 จุด
เดวิด คู๊ก นักวิเคราะห์จาก Mint Equities Ltd กล่าวว่า หุ้นกลุ่มธนาคารได้รับแรงซื้อคับคั่ง หลังจากหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทม์ส รายงานว่ารัฐบาลอังกฤษเริ่มเจรจากับนักลงทุนเกี่ยวกับการขายหุ้นในธนาคารที่รัฐบาลถือหุ้นใหญ่ โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดพุ่ง 4.4% หุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดพุ่ง 5% และหุ้นธนาคาร HSBC ปิดบวก 3.5%
นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่าโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค และมอร์แกน สแตนลีย์ เตรียมชำระกู้ 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์คืนให้กับทางการสหรัฐ ซึ่งสถาบันการเงินทั้ง 3 แห่งรับเงินช่วยเหลือวงเงินดังกล่าวจากโครงการลดสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) เมื่อเดือนต.ค.ปีที่แล้ว โดยการชำระเงินคืนครั้งนี้ถือเป็นจำนวนเงินสูงสุดนับตั้งแต่สภาคองเกรสก่อตั้งโครงการ TARP เมื่อปีที่แล้ว หุ้นโวดาโฟนซึ่งเป็นผู้ประกอบการโทรศัพท์มือถือร่วงลง 4 % หลังจากบริษัทเปิดเผยว่ารายได้ก่อนหักภาษีของบริษัทเพิ่มขึ้นแตะ 1.45 หมื่นล้านปอนด์ (2.23 หมื่นล้านดอลลาร์) จาก 1.32 หมื่นล้านปอนด์ในปีที่แล้ว ส่วนยอดขายพุ่งขึ้น 16% แตะ 4.102 หมื่นล้านปอนด์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวค่อนข้างใกล้เคียงกับที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะมีรายได้ 1.443 หมื่นล้านปอนด์ และมียอดขาย 4.094 หมื่นล้านปอนด์
ส่วนหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปิดบวกตามราคาโลหะในตลาดโลก โดยหุ้นริโอ ตินโต ปิดบวก 1.6% หุ้นคาซัคมิสปิดพุ่ง 2.2% หุ้นยูเรเชียน เนเชอรัล รีซอร์สเซส ปิดพุ่ง 3.2% หุ้นแองโกล อเมริกัน ปิดบวก 5.3% หุ้นลอนมินปิดบวก 6.2% และหุเรบีเอชพี บิลลิตันปิดพุ่ง 7.5%