ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ผลประกอบการดอยช์แบงก์-ยูบีเอส หนุนฟุตซี่ปิดบวก 14.55 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 28, 2010 07:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ก.ค.) จากแรงซื้อที่ส่งเข้าหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากดอยช์แบงก์ และยูบีเอส เอจี สองธนาคารยักษ์ใหญ่ของยุโรปรายงานผลประกอบการที่แข็งแกร่ง อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ถดถอยของสหรัฐได้ส่งผลให้ตลาดหุ้นลอนดอนผันผวน และฉุดดัชนี FTSE 100 ให้ถอยร่นลงจากระดับสูงสุดในระหว่างวัน

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 14.55 จุด หรือ 0.27% แตะที่ 5,365.67 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,351.12 - 5,411.45 จุด

นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารหลังจากธนาคารยูบีเอส เอจี ของสวิสเซอร์แลนด์ เปิดเผยว่าธนาคารมีกำไรในไตรมาส 2 ทั้งสิ้น 2.0 พันล้านสวิสฟรังซ์ (1.9 พันล้านดอลลาร์) และดอยช์แบงก์ ธนาคารรายใหญ่สุดในเยอรมนี เปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 7.2 พันล้านยูโร

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าคณะกรรมการบาเซลเตรียมผ่อนปรนข้อกำหนดด้านการกันสำรองเงินกองทุนและสภาพคล่อง โดยหุ้นธนาคารลอยด์ส แบงกิง กรุ๊ป ปิดพุ่ง 7.6% หุ้นรอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ ปิดบวก 7.5% และหุ้นธนาคารบาร์เคลย์สปิดบวก 8.8%

หุ้นบีพีร่วงลง 2.6% หลังจากบีพีเปิดเผยยอดขาดทุนสุทธิประจำไตรมาส 2 ของปีนี้ที่ 1.72 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับผลกำไรที่ 4.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปีก่อนหน้านี้ และจากข่าวนายโทนี่ เฮย์เวิร์ด ซีอีโอของบีพีเตรียมลาออกจากตำแหน่งในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ โดยมีนายโรเบิร์ต ดัลลีย์ รับหน้าที่ดังกล่าวแทน

นายดัดลีย์อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการรับมือกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการทำความสะอาดคราบน้ำมันที่รั่วไหลในอ่าวเม็กซิโก รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านความเสียหายที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าบีพีอาจต้องขายสินทรัพย์กว่า 3 หมื่นล้านดอลลาร์ รวมถึงลดการลงทุน และปรับลดการจ่ายเงินปันผล หลังค่าใช้จ่ายในการกำจัดคราบน้ำมันได้ส่งผลกระทบต่อมูลค่าทางการตลาดของบีพีไปแล้ว 4.85 หมื่นล้านปอนด์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ