ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดกว้างสำหรับการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ผ่านชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์(Algorithmic Trading) ให้เป็นไปตามหลักสากล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่โบรกเกอร์และผู้ลงทุน เผยครึ่งแรกปี 53 มูลค่าซื้อขายที่เทรดผ่าน Algorithmic Trading ขยายตัวมากกว่า 100%
นายวิเชฐ ตันติวานิช รองผู้จัดการ สายงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ดูแลสายงานการตลาด ตลท. เปิดเผยว่า ตลท.มีนโยบายเปิดกว้างให้กับบริษัทหลักทรัพย์และผู้ลงทุนโดยเฉพาะผู้ลงทุนสถาบันที่ซื้อขายผ่านระบบของสมาชิก ให้สามารถส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
รวมทั้งการใช้ชุดคำสั่งคอมพิวเตอร์ (Algorithmic Trading) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารเงินลงทุนผ่านการใช้กลยุทธ์ในรูปแบบต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้นซึ่งเป็นวิธีที่กองทุนในต่างประเทศนิยมใช้ในการบริหารจัดการ เช่น กองทุนบำเหน็จบำนาญ กองทุนรวม และผู้ลงทุนสถาบันอื่นๆ ที่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ชั้นนำ
ในครึ่งปีแรกของปี 53 มูลค่าการซื้อขายด้วยการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ประเภท Algorithmic Trading คิดเป็น 2.36% ของมูลค่าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ เพิ่มขึ้นจากปี 52 ที่มีสัดส่วน 0.9% จะเห็นได้ว่ามีการขยายตัวมากกว่า 100% แต่ถือว่ายังมีสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ที่พัฒนาแล้วซึ่งมีสัดส่วนสูงกว่า 20%
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งคำสั่งซื้อขายประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจอย่างแพร่หลายมากขึ้นในอนาคตอันใกล้ เนื่องจากตลท.ได้ปรับปรุงการให้บริการการเข้าถึงตลาด(Market Access) ในหลายรูปแบบ ได้แก่ การปรับปรุงระบบการส่งคำสั่งซื้อขายให้สามารถรองรับกับปริมาณการซื้อขายของโบรกเกอร์ที่มีปริมาณการซื้อขายสูง สมาชิกที่มีธุรกรรมจำนวนมากสามารถจะเพิ่มความเร็วในการส่งคำสั่งนี้เพิ่มเติมได้ และการเชื่อมต่อระบบซื้อขายด้วย FIX Protocol ที่เป็นมาตรฐานสากลเพิ่มความสะดวกในการส่งคำสั่งซื้อขายของผู้ลงทุนต่างประเทศผ่านช่องทาง Direct Market Access (DMA) ซึ่งบริการเหล่านี้จะช่วยสนับสนุนการส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์โดยใช้ Algorithmic Trading ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ในส่วนการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ ได้มีการปรับปรุงเกณฑ์ให้เป็นตามมาตรฐานสากลเพื่อรองรับธุรกรรมประเภทใหม่ ๆ ที่เพิ่มขึ้นในอนาคตเช่นกัน