(เพิ่มเติม) ตลาด mai รับหลักทรัพย์ SR เริ่มซื้อขาย 11 พ.ย.58

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 10, 2015 18:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.สยามราช (SR)ผู้ให้บริการงานวิศวกรรมก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 11 พ.ย. นี้ ในกลุ่มทรัพยากร ด้วยหลักเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,100 ล้านบาท

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ. สยามราช (SR) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มทรัพยากร ในวันที่ 11 พฤศจิกายน 2558 ด้วยหลักเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด โดย SR ประกอบธุรกิจหลัก 3 ธุรกิจ ได้แก่ (1) ธุรกิจก่อสร้างสถานีวัดและระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (2) ธุรกิจก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ ทั้งการให้บริการสถานีบริการก๊าซ การออกแบบและก่อสร้าง บำรุงรักษา และการบริหารจัดการสถานีบริการก๊าซ NGV ให้แก่ลูกค้า และ (3) ธุรกิจออกแบบและจำหน่ายระบบปั๊มอุตสาหกรรมและระบบอุปกรณ์วิศวกรรมที่เกี่ยวข้องให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้า

SR มีทุนชำระแล้ว 300 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 450 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 150 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) 150 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 3.50 บาท เมื่อวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2558 มีมูลค่าระดมทุนรวม 525 ล้านบาท ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 2,100 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายเกียรติ วิมลเฉลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สยามราช (SR) เปิดเผยว่า การนำหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ครั้งนี้ จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านเงินทุนให้กับบริษัท โดยจะนำเงินจากการระดมทุนไปใช้เป็นเงินทุนสนับสนุนโครงการ และเงินทุนหมุนเวียนกิจการ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ เนื่องจากแนวโน้มการใช้ก๊าซธรรมชาติในอนาคตมีเพิ่มมากขึ้นทั้งจากแผนการขยายโครงข่ายระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายหลักและแผนกำลังการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซธรรมชาติของประเทศไทย จึงเป็นโอกาสที่สำคัญทางธุรกิจของบริษัทในการเติบโตในอนาคต

SR มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มวิมลเฉลา ถือหุ้น 60.18% กลุ่มณีศะนันท์ ถือหุ้น 9.60% และนายอนันต์ ศิริภูริกาญจน์ ถือหุ้น 3% การกำหนดราคา IPO หากคำนวณกำไรสุทธิของบริษัท (ไม่พิจารณาผลกระทบจากรายการปรับปรุงทางบัญชีที่เกิดขึ้นช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 ซึ่งทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน) ได้ราคา IPO ในอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E ratio) 15.05 เท่า คำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท ช่วงเวลา 4 ไตรมาสย้อนหลัง (ไตรมาส 3 ปี 2557-ไตรมาส 2 ปี 2558) หารด้วยจำนวนหุ้นภายหลังการเสนอขายต่อประชาชน (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.23 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่า 40% ของกำไรสุทธิของบริษัทหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินสำรองตามที่กฎหมายกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ