MDX เชื่อธุรกิจไม่กระทบมาก หากแพ้คดีข้อพิพาททางกม.กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 1, 2018 17:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอ็ม ดี เอ็กซ์ (MDX) แจงข้อพิพาททางกฎหมาย กรณีบ่อบำบัดน้ำเสียรวมคลองด่านซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินการโดยกิจการร่วมค้า NVPSKG (บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย 35.71% ลงทุนในกิจการร่วมค้า 10%) นั้น หากแพ้คดีก็เชื่อว่าจะไม่กระทบมากนักต่อการดำเนินธุรกิจ

โดยในส่วนของคดีหมายเลขดำที่ ฟ.194/2559 คดีหมายเลขแดงที่ ฟ.142/2560 บริษัทได้เคยชี้แจงข้อมูลในประเด็นข้อพิพาททางกฎหมายตามหนังสือที่ M06/017/16 ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2559 ในกรณีโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียรวมคลองด่าน ซึ่งคณะกรรมการธุรกรรมทางการเงิน สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน ได้มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของบริษัท จำนวน 100 ล้านบาท และของบริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (บริษัทย่อย) จำนวน 110 ล้านบาท ไว้ชั่วคราวนั้น ต่อมาศาลชั้นต้นได้มีคำสั่ง เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 ให้ทรัพย์สินดังกล่าว ตกเป็นของแผ่นดิน

ปัจจุบันบริษัท และบริษัทย่อยอยู่ระหว่างอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของศาลชั้นต้น ด้วยเชื่อมั่นว่าทรัพย์สินดังกล่าวไม่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และบริษัทยังคงมั่นใจในกระบวนการยุติธรรม

ในทางกลับกัน หากคดีถึงที่สุดโดยที่บริษัทและบริษัทย่อยแพ้คดี และทรัพย์ดังกล่าวถูกยึดไป บริษัทและบริษัทย่อยก็ต้องบันทึกรับรู้ค่าความเสียหายตามมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดทั้งหมดในงบการเงิน อย่างไรก็ตามบริษัทและบริษัทย่อยได้แยกทรัพย์ดังกล่าวออกจากทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจแล้ว ดังนั้น ข้อพิพาทนี้จึงไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจปกติ

ส่วนคดีหมายเลขดำที่ 791/2554 และ 809/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 18/2555 และ 2090/2555 นั้น ในเดือนมกราคมปี 2554 คณะอนุญาโตตุลาการ ได้มีคำชี้ขาดให้กรมควบคุมมลพิษชำระค่างวดคงค้างของโครงการออกแบบรวมก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้าเสีย เขตควบคุมมลพิษ จังหวัดสมุทรปราการ แก่กิจการร่วมค้า เอ็นวีพีเอสเคจี จำนวนเงิน 7,936.45 ล้านบาท และจำนวนเงิน 54.29 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา โดยกิจการร่วมค้าฯได้รับชำระเงินแล้วจำนวน 3,174.58 ล้านบาท และจำนวน 21.72 ล้านเหรียญสหรัฐ

ต่อมาในปี 2559 กระทรวงการคลังได้ยื่นร้องขอต่อศาลปกครองกลางให้พิจารณาคดีดังกล่าวใหม่ ในเดือนพฤษภาคมปี 2560 ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งให้งดบังคับคดี และในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ศาลปกครองสูงสุดก็ได้มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของศาลปกครองกลางที่ให้งดการบังคับคดี

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ปี 2561 ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้เพิกถอนคำชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการ กิจการร่วมค้าฯ จึงได้ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลปกครองกลางต่อศาลปกครองสูงสุด ปัจจุบันอยู่ระหว่างรอคำสั่งว่าศาลปกครองสูงสุดจะรับอุทธรณ์หรือไม่

ทั้งนี้ ผลของคดียังมีความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม หากคดีถึงที่สุดโดยที่กิจการร่วมค้าเป็นฝ่ายแพ้คดี อาจทำให้กิจการร่วมค้าต้องคืนเงินค่างวดที่ได้รับมาแล้วตามที่กล่าวข้างต้นแก่กรมควบคุมมลพิษ และบริษัทย่อยอาจจะต้องคืนเงินตามส่วนที่ได้รับจากกิจการร่วมค้า ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวได้ถูกอายัดไว้แล้วตามรายละเอียดในคดีที่ได้กล่าวไว้ด้านบน

กรณีการเพิกถอนโฉนดที่ดินนั้น บริษัท เกตเวย์ ดิเวลลอปเมนท์ จำกัด (บริษัทย่อย) ได้รับคำสั่งจากอธิบดีกรมที่ดิน ที่ 1298/2555 ลงวันที่ 2 พฤษภาคม 2555 ให้มีการเพิกถอนโฉนดที่ดินเลขที่ 24016 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งบริษัทย่อยเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในที่ดิน มูลค่าตามบัญชี 11.39 ล้านบาท ซึ่งบริษัทย่อยได้ยื่นหนังสือขอคัดค้านการเพิกถอนโฉนดดังกล่าว ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการสอบสวน

หากคดีถึงที่สุดโดยที่บริษัทย่อยแพ้คดี ที่ดินดังกล่าวก็จะถูกเพิกถอนโฉนด และบริษัทย่อยก็ต้องบันทึกรับรู้ค่าความเสียหายของที่ดินที่ถูกเพิกถอนดังกล่าวในงบการเงิน แต่เนื่องด้วยปัจจุบัน บริษัทย่อยก็มิได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวแต่อย่างใด ดังนั้น จึงไม่เกิดผลกระทบกับการดำเนินธุรกิจที่สืบเนื่องจากการถูกเพิกถอนโฉนดดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ