(เพิ่มเติม) CPT จะตั้งสนง.ขายในอินโดฯ-เวียดนาม-ฟิลิปปินส์ หวังเพิ่มรายได้ตปท. ,ตั้งบ.ร่วมทุนทำธุรกิจออกแบบ-ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 19, 2018 12:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ซีพีที ไดร์ แอนด์ เพาเวอร์ (CPT) เตรียมรุกงานต่างประเทศหลังจะใช้งบราว 70 ล้านบาท ตั้งสำนักงานขายในอินโดนีเซีย ,เวียดนาม ,ฟิลิปปินส์ เจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานน้ำตาล ก่อนขยายไปสู่อุตสาหกรรมอื่น หวังผลักดันรายได้จากต่างประเทศแตะระดับ 500 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าภายในปี 63 ส่วนการขยายงานในประเทศล่าสุดตั้งบริษัทร่วมทุนทำธุรกิจออกแบบ-ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวล ขยายช่องทางธุรกิจและเพิ่มแหล่งรายได้ให้บริษัท

นายสมศักดิ์ หลิมประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ CPT เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมพร้อมเข้าไปขยายตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศอินโดนีเซีย เวียดนามและฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีและมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทจะใช้เงินลงทุนประมาณ 70 ล้านบาท เพื่อตั้งสำนักงานขายใน 3 ประเทศดังกล่าว ซึ่งในเบื้องต้นจะมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าโรงงานน้ำตาลเป็นอันดับแรก ก่อนจะขยายไปสู่อุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ เช่น อุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ เหล็กและกระดาษ

สำหรับแนวทางการดำเนินงานนั้น จะใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อันยาวนานกว่า 25 ปี ในการนำเสนอสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยงานออกแบบและจัดหาตู้ควบคุมเครื่องจักรสำหรับกระบวนการผลิต การติดตั้งตู้ไฟฟ้ากำลังระดับแรงดันปานกลาง (MV Switchgear Panel) และตู้จ่ายไฟฟ้าระดับแรงดันต่ำ รวมถึงงานติดตั้งเดินสายระบบไฟฟ้าให้แก่ลูกค้า เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นบริษัทจากต่างประเทศ โดยเชื่อว่ามั่นว่าจากความสำเร็จของผลงานต่างๆ ที่ผ่านมา จะเป็นเครื่องชี้วัดถึงศักยภาพในการให้บริการ ซึ่งจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นและได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าในตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าหลังจากตั้งสำนักงานขายใน 3 ประเทศดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จะทำให้สามารถทำการตลาดเจาะเข้าไปยังกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเติบโตของรายได้จากตลาดต่างประเทศ โดยในปี 63 บริษัทตั้งเป้ารายได้จากตลาดต่างประเทศไว้ที่ 500 ล้านบาท หรือคิดเป็น 25% ของรายได้รวมทั้งหมด จากในปัจจุบันที่มีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 10% หรือประมาณ 100 ล้านบาท

"เรามั่นใจในศักยภาพการดำเนินธุรกิจของบริษัทว่าจะสามารถชิงความได้เปรียบในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดต่างประเทศได้ เนื่องจาก CPT มีความรู้และความเชี่ยวชาญ พร้อมด้วยประสบการณ์ในการเป็นผู้วางระบบไฟฟ้าสำหรับควบคุมเครื่องจักร ซึ่งได้รับความไว้วางใจและการยอมรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเราประเมินว่ารายได้จากต่างประเทศจะเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่ไตรมาส 1/62 เป็นต้นไป"นายสมศักดิ์ กล่าว

ขณะเดียวกัน CPT แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯเมื่อเช้านี้ว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น กับบริษัท ไทย เทอร์โบ เจนเนอร์เรเตอร์ จำกัด (TTG) และจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน เพื่อรองรับการร่วมทำธุรกิจให้บริการออกแบบ จัดหาระบบไฟฟ้าและพลังงาน โดยมีเป้าหมายจะรับออกแบบ จัดหา และก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กถึงขนาดกลางแบบครบวงจร ให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงเลื่อยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าและมีวัสดุที่สามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าชีวมวล

สำหรับบริษัทร่วมทุนดังกล่าวอยู่ภายใต้ชื่อบริษัท ซีพีที-ทีทีจี อินโนเวชั่น จำกัด ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท โดยบริษัทถือหุ้น 60% และ TTG ถือหุ้น 40% เพื่อประกอบกิจการให้บริการออกแบบ จัดหาระบบไฟฟ้าและพลังงาน และก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดเล็กถึงขนาดกลางและปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งการร่วมลงทุนดังกล่าวเพื่อขยายช่องทางธุรกิจและเพิ่มแหล่งรายได้ให้กับบริษัท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ