ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (25 ม.ค.) สัญญาข้าวสาลีพุ่งขึ้นเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน และเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ปี 2553 ท่ามกลางอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง แต่ข้าวโพดและถั่วเหลืองยังคงมีบรรยากาศที่อ่อนแรงระหว่างวัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนมีนาคมร่วง 11.25 เซนต์ หรือ 1.7% แตะที่ 6.44 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 3 เซนต์ หรือ 0.36% แตะ 8.3825 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนมีนาคมดิ่ง 30 เซนต์ หรือ 2.1% แตะ 13.745 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
เทรดเดอร์กล่าวว่า อุปสงค์ของข้าวสาลีในตลาดโลกสูงกว่าอุปทานเป็นจำนวนมาก เนื่องจากสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเพาะปลูกในทั่วโลกทำให้เกิดมุมมองที่ว่าผลผลิตข้าวสาลีจะลดลงอย่างมาก
นอกจากนี้ เทรดเดอร์กล่าวเสริมว่า รัสเซียยังคงสั่งระงับการส่งออก ในขณะที่ยูเครนได้กำหนดโควตา และยุโรปก็ได้ขายข้าวสาลีในสต๊อกส่วนที่สามารถส่งออกได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว ทำให้ไม่สามารถจะแข่งขันในตลาดได้อีกต่อไป ส่วนข้าวสาลีของแคนาดามีปัญหาในเรื่องคุณภาพ ในขณะที่ข้าวสาลีของออสเตรเลียมีปัญาเรื่องคุณภาพบวกกับปัญหาสาธารณูโภคในการขนส่งข้าวสาลีไปยังท่าเรือ ซึ่งส่งผลให้ราคาข้าวสาลีทะยานขึ้น 68% ในปีที่แล้ว
กระทรวงเกษตรของสหรัฐประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่า สหรัฐได้ส่งออกข้าวสาลีจำนวน 1.054 ล้านตันในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 มกราคม ซึ่งเป็นยอดที่สูงกว่าสัปดาห์ก่อนหน้านี้ถึง 7 เท่า
อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองได้รับผลกระทบจากการประชุมของกลุ่มประเทศ จี20 ซึ่งมีมติว่าจะเพิ่มกฎระเบียบในการควบคุมภาวะเงินเฟ้อด้านสินค้าโภคภัณฑ์เกษตร นอกจากนี้ สภาพอากาศของอเมริกาใต้ที่ปรับตัวดีขึ้นและการเทขายในตลาดพลังงาน ได้ถ่วงตลาดทั้งสองแห่ง