ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (4 เม.ย.) ราคาสัญญาข้าวโพดยังมีบรรยากาศที่คึกคักอย่างต่อเนื่องจนถึงเมื่อวานนี้ โดยราคาทะยานสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2551 เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากยอดสต็อคที่ลดลงอย่างมากของสหรัฐ ในขณะเดียวกัน ข้าวสาลียังปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่อบอ่นและแห้งแล้ง ส่วนราคาถั่วเหลืองลดลงอย่างต่อเนื่อง
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค. พุ่ง 24.25 เซนต์ หรือ 3.3% ปิดที่ 7.6025 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. ทะยาน 30.5 เซนต์ หรือ 4% แตะที่ 7.9 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ลดลง 9.75 เซนต์ หรือ 0.7% แตะที่ 13.84 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า ราคาข้าวโพดที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากยอดสต็อคที่ลดลง นอกจากนี้ ราคาพลังงานที่เพิ่มขึ้นช่วยหนุนบรรยากาศในเชิงบวก
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงเกษตรของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสต็อค ณ วันที่ 1 มีนาคมลดลงสู่ระดับ 6.523 พันล้านบุชเชล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี
ในขณะเดียวกัน ราคาน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้น 53 เซนต์ แตะที่ 108.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2551
ตลาดข้าวสาลีปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการรายงานสภาพอากาศที่อบอุ่นขึ้นและส่วนใหญ่แห้งแล้งในภาคใต้และภาคตะวันตกของพื้นที่เพาะปลูกข้าวสาลีฤดูหนาวของสหรัฐ โดยพื้นที่ในรัฐเวสต์ แคนซัส ภาคตะวันตกของรัฐโอคลาโฮมา และ เท็กซัส มีอุณหภูมิที่ 95-102 องศาฟาเรนไฮต์ในช่วงวันหยุด ซึ่งคาดว่าอาจส่งผลกระทบต่อภาวะการเพาะปลูก
ส่วนตลาดถั่วเหลืองปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในอาร์เจนตินาและภาคใต้ของบราซิลคาดว่าอาจทำใก้มีการเก็บเกี่ยวมากขึ้นในระยะใกล้ นอกจากนี้ เทรดเดอร์กล่าวว่า ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการระบายสัญญาซื้อเนื่องจากกระแสข่าวลือที่ว่า จีนได้เปลี่ยนไปซื้อถั่วเหลืองจากบราซิลแทนสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน