ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนที่ผ่านมา (18 เม.ย.) ราคาสัญญาธัญพืชปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการพยากรณ์สภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยในอนาคต โดยราคาข้าวสาลีนำตลาดเพิ่มขึ้นท่ามกลางกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ชื้นแฉะในพื้นที่ราบทางภาคเหนือในสัปดาห์ที่จะมาถึง ส่วนข้าวโพดดีดตัวจากภาวะอ่อนแรงหลังกองทุนเข้าซื้อ ขณะที่ถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 10 เซนต์ หรือ 0.75% ปิดที่ 7.595 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค.ทะยาน 30.75 เซนต์ หรือ 4.13% ที่ 7.75 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 12.5 เซนต์ หรือ 0.93% ที่ 13.5575 ดอลลาร์/บุชเชล
นักวิเคราะห์ตลาดกล่าวว่า กระแสข่าวลือที่ว่า หิมะจะตกหนักและมีสภาพอากาศชื้นแฉะมากขึ้นในพื้นที่ราบในภาคเหนือในสัปดาห์ที่จะมาถึง, ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาในการเก็บเกี่ยวข้าวสาลีที่เพาะปลูกช่วงฤดูใบไม้ผลิ และ ความเป็นไปได้ที่จะเกิดความเสียหายแก่ผลผลิตในจีนเนื่องจากปัจจัยด้านสภาพอากาศ ช่วยเป็นแรงหนุนต่อข้าวสาลีอย่างแข็งแกร่ง
นอกจากนี้ เทรดเดอร์บางรายกล่าวว่า ได้เกิดความเสียหายเล็กน้อยต่อข้าวสาลีที่เพาะปลูกในช่วงฤดูหนาวเนื่องจากสภาพอากาศที่เย็นจัดในช่วงสุดสัปดาห์ในแหล่งเพาะปลูกของรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นปัจจัยบวกต่อข้าวสาลี
ส่วนตลาดข้าวโพด เทรดเดอร์กล่าวว่า ถึงแม้ว่าราคาพลังงานจะปรับตัวลดลงและเงินสกุลดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ราคาข้าวโพดยังได้รับแรงหนุนจากสภาพอากาศที่ชุ่มชื้นทั่วทั้งเขตมิดเวสต์ในอีก 2-3 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งอาจทำให้การเพาะปลูกต้องชะลอออกไป หรือบางทีอาจทำให้ต้องหันไปปลูกพืชอื่นๆ แทน
ด้านตลาดถั่วเหลือง ถึงแม้จะยังมีการระบายสัญญาซื้ออย่างต่อเนื่องเพราะได้รับแรงผลักดันอื่นๆ ที่กดตลาดลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ราคาถั่วเหลืองก็ได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของข้าวสาลี นอกจากนี้ กระแสข่าวลือเกี่ยวกับสภาพอากาศที่ชื้นแฉะ ซึ่งจะทำให้การเก็บเกี่ยวในอเมริกาใต้ต้องเลื่อนออกไปนั้น ได้เป็นแรงหนุนต่อตลาด สำนักข่าวซินหัวรายงาน