สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ร่วงลง 72 เซนต์ แตะที่ 102.30 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.56 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ หลังจากมาร์กิต อีโคโนมิกส์ เปิดเผยว่า ภาคการผลิตของยูโรโซนหดตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากการขยายตัวแข็งแกร่งของภาคการผลิตจีน
มาร์กิต อีโคโนมิกส์ เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซน หดตัวลงแตะ 47.7 จุดในเดือนมีนาคม จาก 49 จุดในเดือนกุมภาพันธ์ สอดคล้องกับการคาดการณ์เบื้องต้นของมาร์กิต
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลง นอกจากนี้ ภาคการผลิตยูโรโซนหดตัวเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันในเดือนมีนาคม ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจยูโรโซนอาจหดตัวต่อเนื่องในไตรมาสแรกของปีนี้
การหดตัวของภาคการผลิตยูโรโซนได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) ที่ระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 53.1 ในเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.1 จากเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนวันพุธตามเวลาไทย หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสัปดาห์ก่อนหน้านั้น สต็อกน้ำมันดิบ พุ่งขึ้น 7.1 ล้านบาร์เรล แตะระดับ 353.39 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นรดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2554 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 1.79% เมื่อวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา