ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนนี้ (23 พ.ค.) สัญญาข้าวสาลีและถั่วเหลืองร่วงหนัก เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากข่าวพยากรณ์อากาศที่ส่งสัญญาณดี และเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น อย่างไรก็ดี สัญญาข้าวโพดที่สามารถต้านทานปัจจัยเชิงลบภายนอกตลาดได้และดีดขึ้นได้บางส่วน
สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 6.5 เซนต์ หรือ 1.09% ปิดที่ 6.035 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงหนัก 20 เซนต์ หรือ 2.92% แตะที่ 6.655 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวลดลง 19.75 เซนต์ หรือ 1.43% ปิดที 13.625 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกตลาดอย่างหนัก เนื่องจากเทรดเดอร์เป็นกังวลมากขึ้นว่ากรีซอาจออกจากยูโรโซนและอาจฉุดให้เศษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะวิกฤต
ข่าวกรีซสร้างแรงกดดันให้แก่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เพราะนอกเหนือจากจะทำให้เกิดแรงเทขายอย่างหนักทั่วทั้งตลาดการเงินแล้ว ยังทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อดอลลาร์เนื่องจากเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งทำให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น และส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับแรงกดดันหนักกว่าเดิมจากราคาที่สูงขึ้นสำหรับผู้ถือเงินสกุลอื่น
สำหรับตลาดข้าวสาลีนอกจากจะปรับตัวลดลงจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นแล้ว ยังได้รับแรงกดดันจากมุมมองที่ว่าตลาดอาจได้รับแรงซื้อมากเกินไป เนื่องจากสัญญาส่งมอบเดือนก.ค. ปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 30 เซนต์ในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ยังมีกระแสข่าวลือที่ว่า ฝนที่ตกในรัสเซียบางส่วนช่วยบรรเทาความวิตกกังวลเกี่ยวกับคุณภาพของผลผลิตข้าวสาลีของประเทศ ซึ่งทำให้แรงหนุนสำหรับผลผลิตสหรัฐอ่อนแรงลง
ด้านสัญญาถั่วเหลืองมีแรงกดดันบางส่วนจากพยากรณ์อากาศในสัปดาห์หน้า โดยเทรดเดอร์มีมุมมองว่า การมีฝนในเร็วๆนี้อาจทำให้ผลผลิตถั่วเหลืองฤดูใบไม้ผลิที่มีการเพาะปลูกสูงเป็นประวัติการณ์อยู่แล้ว เจริญงอกงามยิ่งขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน