สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ลดลง 63 เซนต์ แตะที่ 88.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 13.03 น.ตามเวลาลอนดอน หลังจีนส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจประเทศกำลังเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทยุโรปหลายแห่ง ทำให้ตลาดวิตกกังวลว่าอุปสงค์น้ำมันอาจร่วงลง ด้วยปัจจัยดังกล่าว ราคาน้ำมันจึงไม่สามารถบวกขึ้นได้แม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลงก็ตาม
นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวว่า สถานการณ์ด้านแรงงานในประเทศจีน "อยู่ในภาวะวิกฤตที่รุนแรงมากขึ้น" ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันดิบมากเป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น จะทำให้อุปสงค์พลังงานหดตัวลงด้วย
เมื่อวานนี้ การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 116,000 บาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล
ขณะเดียวกันนักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 ก.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจจะลดลง 500,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นอาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล