กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนได้เปิดเผยในรายงานว่า อุตสาหกรรมใยสังเคราะห์ของจีนอาจต้องพบวิกฤติต่อเนื่องในช่วงครึ่งหลังของปีนี้และการดำเนินธุรกิจจะประสบปัญหาในการหาช่องทางเพื่อพัฒนาจึงส่งผลให้อุปสงค์นั้นถดถอย
นอกจากนี้ อัตราค่าแรงที่สูงขึ้น ประกอบกับกำลังการผลิตที่เพิ่งได้เพิ่มเข้ามานั้น อาจจะเพิ่มความตึงเครียดให้กับอุตสาหกรรมใยสังเคราะห์มากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศได้ตั้งข้อสังเกตว่านโยบายเศรษฐศาสตร์มหภาคของจีนอาจมีการผ่อนคลายมากขึ้นในเดือนต่อๆไป และคาดว่าสภาพคล่องของตลาดน่าจะเพิ่มขึ้นและจะช่วยให้อุตสาหกรรมฟื้นตัวขึ้น
ในช่วงครึ่งแรกของปีนั้น อุตสาหกรรมใยสังเคราะห์ของจีนอยู่ในภาวะทรงตัว โดยการผลิตและการลงทุนนั้นรักษาระดับการขยายตัวได้สม่ำเสมอ ในขณะที่กำไรกลับลดลงอย่างมาก ซึ่งเป็นผลพวงจากอุปสงค์ที่ต่ำและราคาสินค้าที่ลดลง
ทั้งนี้ จีนได้ผลิตใยสังเคราะห์ทั้งหมด 18.85 ล้านตันตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้น 14.6% จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า จีนได้นำเข้าใยสังเคราะห์ที่ 340,000 ตัน ในช่วง 5 เดือนแรก ลดลงจากปีก่อน 6%
มูลค่าการลงทุนสำหรับอุตสาหกรรมใยสังเคราะห์ในจีนอยู่ที่ 31.2 พันล้านหยวนในช่วงเดือนมกราคมถึงพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้น 24.3% เมื่อเทียบจากปีก่อน และขยายตัวเพิ่มขึ้น 42.2% เมื่อเทียบกับในปีก่อน ณ ช่วงเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ ตามผลกำไรของอุตสาหกรรมใยสังเคราะห์ในช่วงเวลาดังกล่าวกลับร่วงลงถึง 50.1% มาสู่ระดับ 6.6 พันล้านหยวน โดยมีบริษัท 30.8% ต้องประสบภาวะขาดทุน สำนักข่าวซินหัวรายงาน