ราคาน้ำมันดิบตลาดสิงคโปร์ปรับตัวลงเล็กน้อยในวันนี้ (19 ก.ค.) หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดนิวยอร์กพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงเมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากน้ำมันเบนซินสำรองของสหรัฐที่ร่วงลงเหนือความคาดหมาย สำนักข่าวธอมสัน ไฟแนนเชียลรายงานว่า เมื่อเวลา 09.25 น.ตามเวลาประเทศไทยในวันนี้ สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.และได้มีการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ ขยับลง 4 เซนต์ แตะระดับ 75.01 ดอลลาร์/บาร์เรล จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (18 ก.ค.) ที่ระดับ 75.05 ดอลลาร์/บาร์เรล กระทรวงพลังงานสหรัฐเปิดเผยว่า น้ำมันดิบสำรองในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค.ลดลง 500,000 บาร์เรล สู่ระดับ 352.1 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ในโพลล์ดาวโจนส์นิวส์ไวร์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 760,000 บาร์เรล ส่วนน้ำมันเบนซินสำรองร่วงลง 2.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 203.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 560,000 บาร์เรล และน้ำมันกลั่นสำรองซึ่งรวมถึงน้ำมันฮีทติ้งออยล์และเชื้อเพลิงดีเซล ลดลง 200,000 บาร์เรล สู่ระดับ 122.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 780,000 บาร์เรล นักวิเคราะห์จากคอมมอนเวลธ์ แบงค์ ออฟ ออสเตรเลียกล่าวว่า "น้ำมันเบนซินสำรองร่วงลงเหนือความคาดหมายถึง 2.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นทันที" รายงานระบุว่า สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้เรียกร้องให้กลุ่มโอเปคเพิ่มเพดานการผลิตน้ำมันดิบ โดยเฉพาะในช่วงฤดูการขับขี่ยานยนต์ในสหรัฐ แต่โอเปคย้ำว่ายังไม่มีแผนที่จะเพิ่มการผลิตในระยะนี้ นอกจากนี้มีข่าวว่า อิหร่านซึ่งเป็นสมาชิกรายใหญ่ของโอเปคกล่าวว่า ยังไม่มีความจำเป็นที่โอเปคจะจัดประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือกันเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น อีกทั้งกล่าวว่าตลาดโลกมีน้ำมันดิบในปริมาณที่เพียงพออยู่แล้ว