ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (5 ก.ย.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ราคาทองพุ่งทะยานสูงขึ้นทันทีที่ทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนส.ค.ที่ดิ่งร่วงลงอย่างหนัก แต่ในตอนท้ายราคาทองกลับขยับลดลงอันเป็นผลสืบเนื่องจากสถานการณ์ของเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาทองคำตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 802.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 40 เซนต์ โดยในระหว่างวันราคาทองคำพุ่งขึ้นสูงสุดแตะที่ 824.20 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 12.3250 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 61.50 เซนต์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดลบ 16.75 เซนต์ แตะที่ 3.0985 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,367.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 34.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมเดือนธ.ค.ปิดที่ 272.90 ดอลลาร์/ออนซ์ลดลง 16.90 ดอลลาร์
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า อัตราจ้างงานในเดือนส.ค.ร่วงลง 84,000 ตำแหน่ง ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขจ้างงานจะลดลง 75,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราว่างงานพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 6.1%
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลต่ออุปสงค์ในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังจากที่ยอดขายรถยนต์ในสหรัฐย่ำแย่ต่อเนื่องเป็นเวลา 10 เดือนได้ทำให้นักลงทุนเทส่งแรงเทขายสัญญาพลาตินั่มออกมาอย่างหนัก เช่นเดียวกับโลหะมีค่าอื่นๆ
ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นกว่า 17 เซนต์เมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรนับตั้งแต่อ่อนค่าหนักสุดที่ระดับ 1.6038 ต่อยูโรเมื่อช่วงกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมามีส่วนกดดันให้ราคาทองคำไต่ระดับลงเรื่อยๆจากที่เคยพุ่งสูงสุดแตะที่ 980 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักวิเคราะห์หลายท่านกล่าวว่า ทิศทางของเงินดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาทองคำในระยะนี้
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.0-2253-5050 อีเมล์:
[email protected]