สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดสิงคโปร์ ร่วงลงต่ำกว่าระดับ 52 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทะยานขึ้นแข็งแกร่งเมื่อหลายวันก่อน นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ร่วงลงเมื่อวันศุกร์
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX เดือนพ.ค.ร่วงลง 1.03 ดอลลาร์ แตะที่ 51.35 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเที่ยงวันนี้ จากระดับปิดที่ 52.38 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วิคเตอร์ ชูม นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากบริษัท Purvin & Gertz กล่าวว่า "การที่สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ดิ่งลงตั้งแต่วันศุกร์ถือเป็นสถานการณ์ที่ปกติ เนื่องจากลงทุนที่ทุ่มซื้อสัญญาน้ำมันดิบเอาไว้ก่อนหน้านี้ ได้เทขายทำกำไรออกมา และปัจจัยพื้นฐานด้านดีมานด์และซัพพลายในตลาดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง"
ส่วนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.38 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งแกร่งขึ้น และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนก.พ. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับสต็อกน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นเกินคาดในสหรัฐ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยทำให้ดีมานด์พลังงานลดลงด้วย
นักลงทุนยังจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) นับตั้งแต่โอเปคมีมติคงเพดานการผลิตในการประชุมที่กรุงเวียนนาเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และจะมีการประเมินสถานการณ์ในตลาดพลังงานอีกครั้งในการประชุมครั้งต่อไปซึ่งจะมีขึ้นวันที่ 28 พ.ค.นี้ โดยปัจจุบันเพดานการผลิตน้ำมันของโอเปคอยู่ที่ 24.84 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า อุตสาหกรรมสายการบิน, เครื่องจักร, รถยนต์ และอุตสาหกรรมแทบจะทุกภาคส่วนได้ปรับลดกำลังการผลิตและเลย์ออฟพนักงานจำนวนมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากำลังในการใช้พลังงานลดน้อยลงด้วย