ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันศุกร์ (2 พ.ค.) โดยปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 15 ซึ่งเป็นสถิติการปรับขึ้นต่อเนื่องยาวนานที่สุดเท่าที่เคยมีมา ขณะที่นักลงทุนมีความมั่นใจมากขึ้นจากสัญญาณบ่งชี้ว่าความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกเริ่มผ่อนคลาย
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 8,596.35 จุด เพิ่มขึ้น 99.55 จุด หรือ +1.17%
ดัชนี FTSE 100 ได้รับแรงหนุนจากความหวังว่าประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ จะสามารถเจรจาการค้าได้สำเร็จ และจากผลประกอบการไตรมาสแรกที่แข็งแกร่ง
จีนเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ว่า กำลังประเมินข้อเสนอของสหรัฐฯ ที่ต้องการเปิดการเจรจาเกี่ยวกับภาษี 145% ที่สหรัฐฯ กำหนดกับจีน ซึ่งเป็นสัญญาณว่าความตึงเครียดระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ของโลกอาจกำลังคลี่คลาย
หุ้นเชลล์ (Shell) เพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากบริษัทน้ำมันรายใหญ่ประกาศกำไรไตรมาสแรกสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ และยังคงโครงการซื้อหุ้นคืน แม้ราคาน้ำมันและค่าการกลั่นจะลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้น 1.6% โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการของเชลล์
หุ้นแนตเวสต์ (NatWest) ปรับตัวขึ้น 1.3% หลังรายงานกำไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นถึง 36% สูงกว่าที่คาด เนื่องจากมาร์จินที่ดีขึ้นจากเงินฝาก และยอดสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น
หุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด (Standard Chartered) ทรงตัว หลังรายงานกำไรเพิ่มขึ้น 10% แต่เตือนร่วมกับคู่แข่งอย่าง เอชเอสบีซี (HSBC) ว่า ภาษีที่เพิ่มขึ้นอาจส่งผลลบต่อคุณภาพสินเชื่อ