ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นในวันนี้ (29 พ.ค.) หลังจากที่ศาลสหรัฐฯ มีคำสั่งให้ระงับการใช้มาตรการภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเรียกเก็บเป็นวงกว้างต่อสินค้านำเข้าจากประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯ
ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 38,355.70 จุด เพิ่มขึ้น 633.30 จุด หรือ +1.68%, ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,363.97 จุด เพิ่มขึ้น 24.04 จุด หรือ +0.72% และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 23,408.36 จุด เพิ่มขึ้น 150.05 จุด หรือ +0.65%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้พุ่งขึ้น 1.76% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียบวก 0.31%
ศาลการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ ในนิวยอร์กมีคำสั่งในวันพุธ (28 พ.ค.) ให้ระงับใช้มาตรการภาษีศุลกากรของปธน.ทรัมป์ โดยศาลตัดสินว่า ปธน.ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตด้วยการกำหนดภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศที่ขายสินค้าให้กับสหรัฐฯ มากกว่าซื้อจากสหรัฐฯ
ทั้งนี้ แม้ว่าทำเนียบขาวจะยื่นอุทธรณ์คำตัดสินดังกล่าว แต่คำตัดสินนี้ก็จุดประกายความหวังว่า ปธน.ทรัมป์อาจลดระดับการใช้มาตรการภาษีในอัตราสูงสุดตามที่เคยขู่ไว้
ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) มีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% สู่ระดับ 2.5% จากระดับ 2.75% โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2565 ในการประชุมวันนี้ (29 พ.ค.) มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจภายในประเทศ
นักลงทุนจับตาทิศทางราคาหุ้นบริษัทผลิตชิปในเอเชีย หลังจากบริษัทอินวิเดีย (Nvidia) เปิดเผยกำไรและรายได้ที่สูงเกินคาดในวันพุธ โดยได้แรงหนุนธุรกิจศูนย์ข้อมูลที่เติบโตแข็งแกร่งถึง 73% เมื่อเทียบรายปี