ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง ส่งสัญญาณการพักฐานของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นอย่างมากวานนี้
ณ เวลา 18.43 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 23 จุด หรือ 0.05% สู่ระดับ 43,401
ดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นกว่า 500 จุดวานนี้ โดยได้แรงหนุนจากการทรุดตัวของราคาน้ำมัน รวมทั้งการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความพึงพอใจต่อสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับการหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน
"ผมคิดว่าข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกำลังเป็นไปด้วยดี โดยอิสราเอลถอนกำลังออกมาเมื่อวานนี้ พวกเขาทำการโจมตีเพราะเห็นว่ามีการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งในทางเทคนิคถือว่าพวกเขามีสิทธิ์ทำได้ แต่หากเป็นเช่นนี้ต่อไป สถานการณ์อาจไม่เป็นผลดีนัก ผมจึงแจ้งพวกเขาให้นำเครื่องบินรบกลับมา และพวกเขาก็ปฏิบัติตาม ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก และขณะนี้สถานการณ์โดยรวมก็กำลังเป็นไปด้วยดี" ปธน.ทรัมป์กล่าวในระหว่างการหารือร่วมกับนายมาร์ค รุตเตอ เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์
นักลงทุนจับตานายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันนี้
ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ นายพาวเวลส่งสัญญาณว่า เฟดไม่ได้เร่งรีบที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากเฟดกำลังรอความชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อเงินเฟ้อ และเฟดกำลังจับตาทิศทางเศรษฐกิจก่อนที่จะพิจารณาปรับนโยบาย
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงมุ่งมั่นในการควบคุมเงินเฟ้อ และเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมีข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่มีต่อราคา
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีการขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง และตลาดแรงงานใกล้เข้าสู่ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ แต่นายพาวเวลย้ำว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่สูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2% และผลกระทบของมาตรการเรียกเก็บภาษีศุลกากรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังคงไม่มีความชัดเจน